xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร รับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการผลิตขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบโครงการขอใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และขออนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โครงการรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการผลิต ขององค์การ ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
วันนี้ (19ส.ค.) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
1.1 เห็นชอบให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กู้ยืมเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (กองทุนฯ) จำนวน 200 ล้านบาท
1.2 อนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ให้ อ.ส.ค. กู้ยืมเงินเพื่อไปดำเนินการ ตามโครงการรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการผลิตของ อ.ส.ค. (โครงการรับซื้อน้ำนมดิบฯ) ทั้งนี้ มีกำหนดชำระคืนภายใน 3 ปี ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ พ.ศ. 2568 - 2571 โดยอนุมัติวงเงินจำนวน 200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 เพื่อรวบรวมและรับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมในเขตพื้นที่ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของ อ.ส.ค. ตามมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568
นายอนุกูล กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลงและยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งต้นทุนภาคเกษตรและการผลิตมีการปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงมีการปรับราคาน้ำนมดิบของเกษตรกรที่สูงขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ส่งผลให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนมภาคเอกชนหันไปใช้สินค้าทดแทนที่มีราคาต่ำกว่าน้ำนมดิบเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทำให้เกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตน้ำนมดิบที่มีอยู่ทั้งหมดได้ ทำให้มีน้ำนมดิบเหลือและไม่มีแหล่งจำหน่าย จนเกิดปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับ
ครัวเรือนของเกษตรกร จากสถานการณ์ดังกล่าว อ.ส.ค. ได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้นโดยการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเพิ่มเติมจากข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ระหว่าง อ.ส.ค.
กับสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา ในภาพรวมได้เนื่องจากงบประมาณของ อ.ส.ค.
มีจำกัด (ในช่วงปี พ.ศ. 2565 – 2567 อ.ส.ค. ประสบปัญหาทางการเงินจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจชะลอตัว) ประกอบกับผลการดำเนินงาน ด้านรายได้ขององค์กรไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของ อ.ส.ค.

นายอนุกูล กล่าวต่อว่า จากปัญหาข้างต้น อ.ส.ค. จึงได้จัดทำโครงการรับซื้อน้ำนมดิบฯ โดยขอใช้เงินกองทุนฯ จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อนำไปรับซื้อผลผลิตน้ำนมดิบของเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมมาแปรรูปและจำหน่าย โดย อ.ส.ค. จะนำรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมมาชำระคืนกองทุนฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

วัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการรวบรวมและรับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในเขตพื้นที่ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของ อ.ส.ค. ทั้ง 5 สำนักงานภาค [ภาคกลาง (สระบุรี) ภาคใต้ (ประจวบคีรีขันธ์) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) ภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่) ภาคเหนือตอนล่าง สุโขทัย] จำนวน 37 สหกรณ์ สมาชิก 2,960 ราย

เป้าหมายโครงการ รับซื้อน้ำนมดิบของสหกรณ์โคนมที่มีเกษตรกรเป็นสมาชิก และส่งน้ำนมดิบให้แก่
อ.ส.ค. โดยมีปริมาณการรับซื้อน้ำนมดิบ จำนวน 8,792,000 กิโลกรัม ต่อ 1 รอบการผลิต เกษตรกรในโครงการสามารถจำหน่ายน้ำนมดิบได้ปีละ 5 รอบการผลิต จำนวนรวม 43,960,000 กิโลกรัม ระยะเวลา 3 ปี จำนวนรวมทั้งสิ้น 131,880,000 กิโลกรัม
ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี [พ.ศ. 2568 (ช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคม) - 2571]
งบประมาณ ใช้เงินกองทุนฯ จำนวน 200 ล้านบาท ดังนี้ ค่าน้ำนมดิบ เป้าหมาย 37 สหกรณ์ ปริมาณ 8,792,000 กิโลกรัม ราคา 22.75 บาท วงเงิน 200,018,000 บาท โดยในส่วนทีเกินมาอีก 18,000 บาท จะใช้เงินรายได้ของ อ.ส.ค.


กำลังโหลดความคิดเห็น