xs
xsm
sm
md
lg

พท.ยันรบ.เดินหน้าคู่ขนานแก้ปัญหาเขมร ทั้งมั่นคง-กม.-เยียวยา จี้ร่วมมือเก็บทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกเพื่อไทย ยัน รัฐบาลเดินหน้าคู่ขนานแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาทั้งด้านมั่นคง–กฎหมาย–เยียวยา พร้อมจี้ กัมพูชาให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด–ปราบสแกมเมอร์

วันนี้ (17ส.ค.) นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา หลังสถานการณ์คลี่คลายรัฐบาลได้ดำเนินการควบคู่ทั้งด้านความมั่นคง ด้านการทูต และการเยียวยาประชาชน โดยยึดหลักสูงสุดว่าชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน ต้องมาก่อนสิ่งอื่นใดและทุกการดำเนินการจะยึดตามหลักสากลที่ทั่วโลกยอมรับ

และในการประชุม RBC ภาคตะวันออก ฝั่งจันทบุรี–ตราด เมื่อวันที่ 15–16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ยืนยันกรอบปฏิบัติ 13 ข้อ ตามที่ตกลงกันในเวที GBC เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

ซึ่งไทยย้ำชัดว่า เราจะแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ในกรอบทวิภาคี ภายใต้กติกาสากล พร้อมผลักดัน 2 เรื่องสำคัญ คือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อคืนความปลอดภัยให้ชุมชนชายแดน และการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งที่ผ่านมา เรายังได้รับความร่วมมือจากกัมพูชาน้อยกว่าที่คาดหวัง

พรรคเพื่อไทยหวังว่ากัมพูชาจะพิสูจน์ความจริงใจในการหารือรอบถัดไป ด้วยการสนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรม และการเร่งปราบปรามสแกมเมอร์ให้เห็นผลชัดเจน

นางสาวขัตติยา กล่าวต่อว่า กรณีที่ทหารไทยบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลภายหลังข้อตกลงหยุดยิง รัฐบาลได้ดำเนินการประท้วงทางการทูตอย่างเป็นทางการ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำบันทึกหลักฐาน ส่งไปยังกลไกภายใต้อนุสัญญาออตตาวาแล้วหลายฉบับ พร้อมทั้งนัดหมายพาคณะทูตประเทศภาคีลงพื้นที่

ส่วนด้านการเยียวยา รัฐบาลยังคงดำเนินมาตรการต่อเนื่อง ทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งคลินิกเคลื่อนที่และทีม MCATT ฟื้นฟูจิตใจประชาชน และเปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการช่วยเหลือค่าน้ำ–ค่าไฟสำหรับครัวเรือนและศูนย์พักพิงในพื้นที่ ที่ได้รับการงดเว้นช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ส่วนความเสียหาย กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ตั้งศูนย์ตรวจสอบอาคารใน 7 จังหวัดชายแดน เพื่อออกแบบมาตรฐานซ่อมเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ตรวจพบความเสียหายกว่า 300 หลังใน 4 จังหวัดหลัก คือ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี

โดยมีการทยอยส่งมอบบ้านพักชั่วคราวให้ครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังแล้ว 11 หลัง และจะทยอยส่งมอบเพิ่มเติมตามผลการสำรวจและความพร้อมของพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น