xs
xsm
sm
md
lg

“อัครา”ลุย พะเยา สานต่อนโยบาย “พะเยาโมเดล” ยกระดับผลผลิตข้าว ลำไย ข้าวโพด และไหม เพิ่มรายได้เกษตรกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(16 ส.ค.)นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำและการเกษตรในพื้นที่จังหวัดพะเยา ณ ห้องประชุมจอมทอง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพะเยา โดยที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
1) การบูรณาการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ของกรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อนเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยมอบหมายกรมชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์แม่น้ำอิงอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการทั้งในช่วงน้ำหลากและน้ำแล้ง มอบกรมพัฒนาที่ดินจัดทำแผนที่แก้มลิงและบ่อน้ำขนาดเล็กตลอดแนวแม่น้ำอิง รวมถึงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ และโครงการแหล่งน้ำในไร่นา นอกเขตชลประทาน พร้อมทั้งปรับรูปแบบแปลงนา เพื่อให้เหมาะสมต่อทำการเกษตร มอบ ส.ป.ก. ดำเนินการขุดลอกสระน้ำในเขตปฏิรูปที่ดิน การทำฝายชะลอน้ำ และบ่อบาดาลโซล่าเซลล์อย่างต่อเนื่อง

2) การบริหารจัดการข้าว ปี 2568/69 มุ่งส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดในพื้นที่ ส่งเสริมการกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นพันธุ์ขยายและจำหน่าย การยกระดับสินค้าข้าว เกษตรกรและผู้ประกอบการ การเพิ่มมูลค่าข้าวเป็นเกษตรมูลค่าสูง การสร้าง Soft Power และเตรียมการปลูกพืชหลังนาในพื้นที่จังหวัดพะเยา นอกจากนี้ ยังมีแนวทางในการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง โดยให้ส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรอื่น ๆ ทดแทน ทั้งนี้ ข้อมูลสถานการณ์การผลิตข้าวนาปี 2568/69 จังหวัดพะเยามีเกษตรกร 63,696 ครัวเรือน พื้นที่ทั้งหมด 613,095 ไร่ ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ ร้อยละ 66.55 ข้าวเหนียว ร้อยละ 30.28 ข้าวเจ้าอื่น ๆ ร้อยละ 3.14 และข้าวหอมปทุม ร้อยละ 0.03

3) การเตรียมการปลูกพืชหลังนา โดยดำเนินการในเรื่องเทคโนโลยีการผลิตถั่วเหลืองที่มีประสิทธิภาพแบบคาร์บอนต่ำ (พะเยาโมเดล) และการส่งมอบปัจจัยการผลิตให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติของกรมวิชาการเกษตร และเตรียมขยายพื้นที่ในจังหวัดพะเยาอีก 300 ไร่ เกษตรกร 100 ราย ได้ผลผลิต 150 ตัน เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 25%

4) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนการปลูกข้าวโพด โดยมุ่งพัฒนาและส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝนของจังหวัดพะเยา ทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ การลดต้นทุนการผลิต และการส่งเสริมหรือขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ทั้งนี้ สถานการณ์การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ฤดูฝน) ปี 2568/69 จังหวัดพะเยามีเกษตรกร 8,442 ครัวเรือน เนื้อที่เพาะปลูก 129,342 ไร่ ผลผลิตคาดการณ์ 134,372 ตัน เก็บเกี่ยวไปแล้ว 2,160 ตัน (1.6%)

5) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนการปลูกลำไย มุ่งพัฒนาและส่งเสริมการผลิตลำไยของจังหวัดพะเยา โดยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไย และการปลูกพืชแซมในสวนลำไย รวมถึงการลดต้นทุนการผลิตลำไยด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์การผลิตลำไย ปี 2568 จังหวัดพะเยามีเกษตรกรผู้ปลูกลำไย 16,216 ราย มีเนื้อที่เพาะปลูก 92,230 ไร่ เนื้อที่ให้ผล จำนวน 91,780 ไร่ (ทั้งประเทศ 1,644,559 ไร่ พะเยา 5.6% ของเนื้อที่ให้ผลทั้งประเทศ) ปี 2568 พื้นที่ลดลงจาก ปี 2567 ที่ 1.94 % คาดการณ์ผลผลิต ปี 2568 จำนวน 40,227 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ 18.34% ผลผลิตเฉลี่ย 438 กิโลกรัมต่อไร่ เก็บเกี่ยวไปแล้ว 34,427 ตัน (85.6%)

และ 6) การส่งเสริมการเลี้ยงไหมในระดับครัวเรือน มุ่งผลักดันสินค้าเกษตรให้เป็นเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยขยายผลอุตสาหกรรมไหมเหลืองภาคเหนือ ยกระดับผลิตภัณฑ์หม่อนไหมด้วย BCG Model สู่ตลาดต่างประเทศ และผลักดันงานหัตถกรรมผ้าไหมพะเยาสู่สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Soft Power) มีเป้าหมายสร้างเกษตรกรหม่อนไหมรายใหม่ 210 ราย เพิ่มพื้นที่ปลูกไหม 670 ไร่ เพิ่มรายได้จากกิจกรรมหม่อนไหมภาพรวม 6.35 ล้านบาท/ปี
       
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นยำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดบูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมบูรณาการร่วมกับราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้เป็นจังหวัดนำร่องและสานต่อนโยบายพะเยาโมเดลให้สำเร็จตามเป้าหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น