เปิดหลักฐาน “ชนินทร์ แก่นหิรัญ” ทนายความครอบครัว “ชิดชอบ” เคยเป็นประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและสัญญา ของ รฟท. หากรับว่าความคดีที่ดินเขากระโดงส่อผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนาย
จากกรณีที่นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความของครอบครัว “ชิดชอบ” และจะว่าความให้ผู้ได้รับผลกระทบกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จะยึดคืนที่ดินเขากระโดง จ.นั้น ล่าสุด วันนี้(16 ส.ค.) มีรายงานจาก “สำนักข่าวอิศรา” ว่า หากนายชนินทร์ เข้ามาเป็นทนายความให้กับประชาชนในคดีพิพาทดังกล่าวจริง ก็มีความเป็นไปว่า นายชนินทร์อาจเข้าข่ายกระทำผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 ในหมวด 3 มรรยาทต่อตัวความ ข้อ 13 ที่ระบุว่า “ได้รับปรึกษาหารือ หรือได้รู้เรื่องกรณีแห่งคดีใด โดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายหนึ่ง แล้วภายหลังไปรับเป็นทนายความ หรือใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือคู่ความ อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นปรปักษ์อยู่ในกรณีเดียวกัน”
ทั้งนี้ เนื่องจากนายชนินทร์ เคยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและสัญญา ของ รฟท. ตามคำสั่งคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ 6/2563 เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย สั่ง ณ วันที่ 18 พ.ค.2563 ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ ได้แก่ ให้คำปรึกษา แนะนำ และพิจารณากลั่นกรองร่างกฎหมาย ร่างข้อบังคับ ร่างระเบียบ ร่างสัญญา รวมทั้งพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายและข้อสัญญาที่สำคัญแก่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย
เชิญบุคคลหรือเรียกให้พนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย มาให้ข้อมูลความเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อกฎหมาย หรือขอเอกสารใดๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ ,เชิญผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาให้คำปรึกษาแนะนำได้ตามความเหมาะสม ,แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาช่วยดำเนินงานตามความเหมาะสม และจัดทำกฎบัตร ด้านกฎหมายและสัญญาให้สอดคล้องกับขอบเขตความรับผิดชอบในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย และมีการสอบทานความเหมาะสมของกฎบัตรดังกล่าวอย่างน้อยปีละครั้ง เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายชนินทร์ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารระดับสูงในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทหลายแห่ง เช่น อนุกรรมการ Executive Committee กลั่นกรองเรื่องที่จะนำเสนอคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย ,อนุกรรมการ อ.ก.พ.ประจำกระทรวงคมนาคม กรรมการนโยบายขนส่งทางบก และล่าสุดเพิ่งพ้นจากตำแหน่งกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2566