รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ช่วยเหลือเกษตรกร ปล่อยขบวน'หญ้า-อาหารสัตว์พระราชทาน พร้อมเร่งสำรวจ ฟื้นฟูความเสียหายพื้นที่เกษตร-สัตว์เลี้ยง ชง ครม.อนุมัติเยียวยาเพิ่ม
เมื่อวันที่ (10 ส.ค.68) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณพื้นที่ชายแดนว่า ถือเป็นข่าวดีที่ไม่มีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ และสูญเสีย รวมถึงประชาชนส่วนใหญ่สามารถทยอยกลับเข้าที่พักอาศัยได้แล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาคือการดำเนินชีวิตหลังเหตุการณ์ ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบ ทั้งความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจของประชาชน จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูและดูแลอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่เกษตรและสัตว์ที่ได้รับความเสียหายนั้น วันนี้เรายังไม่สามารถสํารวจได้ครบทั้งหมด เนื่องจากว่าในหลาย ๆ พื้นที่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่อันตราย ดังนั้น ตนก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย แต่หลังจากนี้เมื่อสามารถเข้าพื้นที่ได้แล้วเราก็จะเร่งรัดในการลงไปสํารวจความเสียหายไม่ให้มีการตกหล่นแน่นอน เพื่อนำข้อมูลไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการเยียวยา รวมถึงการสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ และปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรได้รับการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการรับฟังปัญหาโดยตรงจากเกษตรกรเพื่อให้ความช่วยเหลือและมาตรการเยียวยาตรงกับความต้องการที่แท้จริง และตนจะติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ โดยได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรในพื้นที่อย่างเร่งด่วน รวมถึงได้ทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการที่จะใช้เงินจากกองทุนต่าง ๆ เพื่อนำมาเยียวยาประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลเสียหาย“นายอรรถกร กล่าว
ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ มีข้อมูลพื้นที่และสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ ใน 3 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด 118 หมู่บ้าน 9 ตำบล เกษตรกร 220 ครัวเรือน , อ.ละหานทราย 27 หมู่บ้าน 6 ตำบล เกษตรกร 359 ครัวเรือน และ อ.เฉลิมพระเกียรติ 27 หมู่บ้าน 2 ตำบล เกษตรกร 11 ครัวเรือน โดยการนำหญ้าอาหารสัตว์มามอบช่วยเหลือในครั้งนี้ จะมีสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นโค 3,510 ตัว , กระบือ 161 ตัว , สุกร 694 ตัว , สุนัข-แมว 307 ตัว รวมทั้งสิ้น 4,672 ตัว ซึ่งในเหตุการณ์สู้รบกันดังกล่าวได้ส่งผลให้มีสัตว์เลี้ยงของเกษตรเสียชีวิต ได้แก่ โค 3 ตัว ของเกษตรกร 3 ราย , สุกรตาย 5 ตัว ของเกษตรกร 2 ราย