“รังสิมันต์” ปัดข่าวลือ ส.ส. 70 คนเตรียมไม่ไปต่อกับพรรคประชาชน ย้ำชัดเป็นเฟกนิวส์ ปลุกปั่น-หวังทำลายความเชื่อมั่น เบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาไทย-กัมพูชา ยันคนในพรรคมีภูมิต้านทานข่าวปลอม
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ชี้แจงกรณีกระแสข่าวลือว่ามี ส.ส.ของพรรคประชาชนถึง 70 คนจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งกับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และมองว่าเป็นข่าวที่มีเจตนาปลุกปั่นให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันภายในพรรค
“เป็นจินตนาการของคนที่ต้องการสร้างความแตกแยก ไม่มีข้อเท็จจริง ไม่มีการพูดคุยภายในพรรคแบบนั้นเลย” นายรังสิมันต์กล่าว พร้อมระบุว่า เมื่อดูรายชื่อที่ปรากฏในข่าวแล้วยิ่งรู้สึกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ และข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่เคยมีใครสอบถามตนหรือฝ่ายบริหารพรรคมาก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงที่มาของข่าวลือดังกล่าว นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่อยากคาดเดาว่ามาจากใคร เพราะข่าวนี้ไม่มีน้ำหนักพอที่จะต้องไปวิเคราะห์หรือตอบโต้ พร้อมย้ำว่าเป็นเฟกนิวส์ และไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของพรรค
“ข่าวนี้รู้ดีกว่าคนในพรรคอีก มันคือเฟกนิวส์ชัดเจน และไม่ใช่เรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเลย”
สำหรับคำถามว่า พรรคประชาชนจะส่ง ส.ส.เดิมลงสมัครอีกครั้งในการเลือกตั้งหน้า นายรังสิมันต์ระบุว่า พรรคเปิดกว้างให้ ส.ส.ทุกคนได้แสดงศักยภาพในการทำงาน และยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ที่จะปิดกั้นโอกาสของใคร เพราะแต่ละคนล้วนมีคุณค่าจากประสบการณ์การทำงานในพื้นที่
“เราเชื่อว่าถ้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อ ทุกคนในพรรคมีโอกาสเท่ากัน”
นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า กระแสข่าวลือที่ออกมาอาจมีเป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากประเด็นการเมืองใหญ่ เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้
“ใครได้ประโยชน์จากข่าวนี้ ลองดูว่าเวลาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาถูกพูดถึง แล้วมีข่าวพรรคเราออกมาเบี่ยงประเด็น มันเป็นเรื่องที่น่าคิด”
อย่างไรก็ตาม นายรังสิมันต์ยืนยันว่า พรรคประชาชนและสมาชิกพรรคมีภูมิต้านทานเฟกนิวส์ มากพอ และพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน โดยไม่หวั่นไหวกับความพยายามปลุกปั่นทางการเมือง
“ไม่มีใครในพรรคถามผมเรื่องรายชื่อเลย ทุกคนรู้ดีว่านี่คือข่าวปลอม เราผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะ และยังยืนหยัดร่วมกันได้” รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวทิ้งท้าย.