xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเล็ก” เผยเขมรยื้อข้อเสนอร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบแสกมเมอร์ ขอนำไปหารือ GBC ครั้งหน้า - โบ้ยระดับพื้นที่ละเมิดหยุดยิงโดยพลการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิ๊กเล็ก” เปิดแถลงทันทีที่มาเลเซีย หลังจบประชุม GBC เผยได้แจ้งต่อที่ประชุมกรณีเขมรละเมิดหยุดยิง แต่ระดับนโยบายยืนยันจริงใจทำตามข้อตกลง ระดับพื้นที่ละเมิดโดยพลการ ย้ำทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย-ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหา แต่กัมพูชายังไม่ตอบรับข้อเสนอร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบแก๊งสแกมเมอร์ ขอนำไปหารือ GBC ครั้งต่อไปในเดือนหน้า

ความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นหัวหน้า ส่วนฝ่ายกัมพูชา มีพลเอก เตีย เสรย-ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ

ภายหลังการประชุมสิ้นสุดลง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลาประมาณ 14.05 น.วันนี้(7 ส.ค.) ตามเวลาในไทย มีเนื้อหาสรุปได้ว่า ก่อนการประชุมเมื่อเช้าวันนี้ ตนได้เข้าเยี่ยมคารวะนายอันวาร์ อิบราฮีม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย

ในการหารือ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยินดีที่เห็นการหยุดยิงและความคืบหน้าที่ดีในการหารือในกรอบจีบีซีไทย-กัมพูชาครั้งนี้ ซึ่งเป็นก้าวที่สําคัญในการปฏิบัติตามการหยุดยิง

“นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ยืนหยัดชัดเจนว่าท่านได้หารือกับผู้นําประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ แล้ว และเห็นตรงกันว่าการแก้ปัญหาของการแก้ปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา เป็นเรื่องทวิภาคีระหว่างไทยกับไทยกับกัมพูชา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของไทย มาเลเซียจะเพียงช่วยประสานงานให้ทั้งสองฝ่ายหารือเพื่อแก้ไขปัญหากันเอง โดยมีอาเซียนสนับสนุน

นอกจากนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยินดีที่ในการประชุมจีดีซีครั้งนี้ ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันในเรื่องคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวที่จะนําโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย และประกอบด้วยผู้ช่วยทหารจากประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น โดยสหรัฐฯ กับจีนจะไม่เข้าร่วม แต่ยินดีสนับสนุนตามที่ไทยและกัมพูชาเห็นสมควร

ผมขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในการประสานงานและอํานวยความสะดวกให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปโดยเรียบร้อย

ทั้งนี้ในการประชุมครั้งนี้มีสหรัฐอเมริกา และจีนร่วมสังเกตการณ์ เช่นเดียวกับการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดยเป็นระดับเอกอัครราชทูต การประชุมจีบีซีครั้งนี้เป็นการติดตามประเด็นต่างๆ ที่ผู้นําไทยและกัมพูชาได้หารือกันที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันให้มีการหยุดยิง

ผมได้ย้ำในที่ประชุมว่า นับตั้งแต่เเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ฝ่ายไทยปฏิบัติตามสิ่งที่ผู้นําทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันเรื่องการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี พบว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดการหยุดยิงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งฝ่ายไทยใช้ความอดทนอดกลั้นที่สุด และตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น

แม้ปัจจุบัน สถานการณ์ชายแดนมีความสงบ แต่ฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมกําลังเข้าไปใน พื้นที่และยังมีการใช้อากาศยานไร้คนขับเข้ามาสอดแนมในพื้นที่ต่างๆ ของไทย ซึ่ง เป็นการกระทําที่ยั่วยุ และอาจทําให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน

นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน และข่าวเท็จต่างๆ ซึ่งไม่สร้างสรรค์ และไม่ ช่วยทําให้เกิดบรรยากาศที่เอื้ออํานวยต่อการเจรจาและการฟื้นฟูความไว้วางใจ

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกันในครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาระดับนโยบายได้แสดงให้เห็นความจริงใจต่อมาตรการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ การกระทําที่ละเมิดการหยุดยิงที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงอาจเป็นการดําเนินการโดยพลการของหน่วยงานในพื้นที่


ดังนั้น เจตนารมณ์ของผมในการเข้าประชุมในวันนี้ คือการหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความจริงใจและสุจริตของทั้งสองฝ่าย เพื่อหาแนวทางที่จะทําให้การหยุดยิงเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน เพื่อนําสันติภาพและความสงบมาสู่ชายแดนไทย-กัมพูชาอีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์สําคัญที่สุดคือเพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนสองฝ่ายจะได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ

ผมขอสรุปผลการประชุมที่สําคัญในครั้งนี้ดังนี้

สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน

1.ทั้งสองฝ่ายตกลงจะยึดมั่นในการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยในการหยุดยิงนั้นต้องครอบคลุมอาวุธทุกประเภท และทั้งสองฝ่ายคงกําลังไว้ที่ตั้งเดิมตั้งแต่วันที่หยุดยิง โดยไม่มีการเสริมกําลังเข้าไปเพิ่มเติม

2.ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของประเทศอาเซียนประจําประเทศไทยและกัมพูชา และนําโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของมาเลเซียเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่อย่างสม่ําเสมอ โดยจะไม่มีการข้ามแดนและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ RBC และ GBC ในแต่ละประเทศเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการละเมิดการหยุดยิงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

3.ทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการกระทําที่เป็นการยั่วยุทั้งในการทหาร และการให้ข้อมูลบิดเบือนหรือข่าวเท็จเพื่อเสริมเสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้ออํานวยต่อการพูดคุยเพื่อหาทางออก โดยสันติ

4.ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยในระยะเวลาเฉพาะหน้าคือการเร่งเก็บและส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี

สําหรับการส่งกลับเชลยศึกตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ก็ให้ส่งกลับทันทีที่มี การยุติการใช้กําลังระหว่างกันโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 โดย ในระหว่างนี้ ผมก็ได้ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ให้การดูแลบุคคลเหล่านี้ตามหลักกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน

5.ทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุยและการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นไม่ให้ลุกลามบานปลาย โดยหลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อประสานงานการปฏิบัติตามสิ่งที่ได้ตกลงกัน

นอกจากนี้จะมีการประชุม GBC อีกครั้งในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเพื่อติดตามความคืบหน้าในการดําเนินการตามผลการประชุมในครั้งนี้

นอกจากนี้ ผมยังได้หยิบยกอีก 2 ประเด็นสําคัญ แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้ตอบรับ โดยขอให้มีการประชุมครั้งนี้เน้นเฉพาะเรื่องการหยุดยิงก่อน และขอให้นําไปหารือในการประชุม GBC ในครั้งต่อไป ได้แก่

1.ความร่วมมือในการเก็บตู้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้เกิดความตึงเครียดจนนําไปสู่การใช้กําลังระหว่างกัน ในเรื่องนี้ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะ และพื้นที่อื่นอื่นตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

2.ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ หรือ ออนไลน์สแกม ซึ่งส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค ในประเทศในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

ผมขอย้ำอีกว่าอีกครั้งว่าสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือและเห็นพ้องร่วมกันในวันนี้ จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย

ผมขอยืนยันว่าฝ่ายไทยจะยึดมั่นในการให้ความร่วมมือและการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจต่อไปบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และก็หวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันและย้ายหนีจากกันไม่ได้ เราเป็นสมาชิกของครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากทั้งสองประเทศสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ก็จะนํานําสันติภาพมาสู่พื้นที่ชายแดน และประชาชนของทั้งสองประเทศก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอย่างสงบสุขอีกครั้ง ขอบคุณครับ

จากนั้น สื่อมวลชน สอบถามว่า การประชุมคณะกรรมาธิการปักปันเขตแดน (JBC) จะมีอีกครั้งหรือไม่ และฝ่ายกัมพูชาส่งสัญญาณอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับการประชุม GBC ที่มี รมว.กลาโหม เป็นประธาน และการประชุม RBC ที่มีแม่ทัพภาคฝ่ายไทย และ ผบ.ภูมิภาคทหาร ฝ่ายกัมพูชา เป็นประธาน จะเห็นได้ว่าประชุมโดยทหารเป็นประธาน

ส่วนการประชุม JBC ที่มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าของเรื่อง โดยการประชุม JBC เมื่อ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายจะมีการประชุมเดือนกันยายนนี้ จึงยึดตามที่มีการประชุมครั้งนั้นเป็นหลัก ซึ่งเราแยกดำเนินการ

สำหรับการประชุมในวันนี้ไม่ได้มีการประชุมเรื่อง JBC แต่เราคำนึงว่าการประชุม JBC จะมีในเดือนกันยายนนี้

เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการติดตามข้อตกลงหยุดยิง และจะพิจารณาให้ประชาขนกลับบ้านอย่างไร พลเอก ณัฐพล ระบุว่า การประชุม GBC ในวันนี้ ตนและรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ลงนามบันทึกการประชุมไปแล้ว ซึ่งจะเป็นกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า และจะลงรายละเอียดภายในกรอบที่ได้ตกลงกัน และหลังจากนั้นอีก 1 เดือน จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อติดตาม

“แต่ในกรณีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ มีการปะทะกันเกิดขึ้น จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” พลเอก ณัฐพล กล่าว

สำหรับประชาชนที่จะกลับภูมิลำเนา ปัจจุบันทาง ศบ.ทก. ได้กำหนดให้ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดประสาน ผบ.หน่วยทหารในพื้นที่ได้โดยตรง เพราะสถานการณ์แต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน จังหวัดใดมีความพร้อม สามารถกลับภูมิลำเนาได้ แต่สิ่งที่กองทัพห่วงใยคือปัจจุบันมีกระสุนและจรวดที่ฝ่ายกัมพูชายิงมาตกในชุมชน อาจยังหลงเหลืออยู่ จึงเร่งสำรวจ ดังนั้นประชาชนที่กลับภูมิลำเนาแล้ว หากพบเห็นวัตถุระเบิดดังกล่าวให้แจ้งหน่วยทหารและตำรววจในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเก็บกู้ระเบิดเพื่อความปลอดภัย


กำลังโหลดความคิดเห็น