xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาจัดระเบียบชายแดน รักษาอธิปไตยของชาติ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ท.บุญสิน พาดกลาง
เมืองไทย 360 องศา


แม้ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม จะมีรายงานว่าผลการประชุมคณะกรรมการทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา(จีบีซี) ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่เริ่มประชุมมาตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นการประชุมระดับเลขานุการ เจ้าหน้าที่ในรายละเอียด โดยในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ ประธาน จีบีซี ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ลงนามร่วมกัน ซึ่งผลปรากฏออกมาในเชิงบวก สามารถตกลงกันได้ในส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ก็ต้องจับตามองกันให้ดีว่า ทางฝ่ายกัมพูชา จะมีการบิดพลิ้วอะไรอีกหรือไม่ เพราะเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวในกรุงพนมเปญ คือ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ที่เวลานี้ได้รับมอบอำนาจในการบัญชาการทหารกัมพูชา จะตุกติกอะไรอีกหรือไม่

แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ ท่าทีของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ที่ยืนยันหลักการคือให้ “จัดระเบียบชายแดน” ไทย-กัมพูชา กันใหม่ พร้อมทั้งย้ำว่าจะไม่ถอยกำลังในพื้นที่ 11 จุดสำคัญอย่างเด็ดขาด

วันที่ 6 สิงหาคม ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. แถลงข่าวประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในสภาพปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหาร ในพื้นที่บางส่วน แต่ก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด และในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการตรวจพบการใช้โดรน เพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์ที่ไทย ประกาศไม่ให้มีการบินโดรน ทุกชนิดทั่วประเทศ และฝ่ายความมั่นคง ยังคงดำรงความเข้มงวด ในการสกัดกลั้นและตรวจตา ตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นมาตรการที่ออกไว้ และมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568

ส่วนสถานการณ์บริเวณช่องอานม้า ที่ปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชา ได้พยายามตัดลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยได้วางไว้ ตามขอบเขตอธิปไตยของไทย ปัจจุบันกำลังทหารในพื้นที่ของทั้งสองฝ่าย มีการพูดคุยเจรจา เรียบร้อยแล้ว ไม่มีการกระทบกระทั่งใดๆ สถานการณ์อยู่ในสภาวะปกติ และฝ่ายไทยได้ดำเนินการวางลวดหนาม ชุดใหม่ทดแทน ชุดเดิมที่ถูกตัดไปเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า วานนี้ 5 ส.ค.68 ได้ไปตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีกลิ่นศพทหารกัมพูชาอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเราได้ประสานไปยังกองทัพกัมพูชา ให้จัดทีมมาเก็บศพทหารของตนเองที่เสียชีวิตกลับไปทำพิธีเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีกระแสว่ามีการสั่งให้กำลังพล นำปูนขาวไปเทป้องกันเชื้อโรค พลโท บุญสิน กล่าวว่า เราหาวิธีดับกลิ่น เพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมเป็นพิษ โดยเฉพาะโรคระบาดต่างๆ

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ ไม่ได้สั่งให้ทหารไทยไปเก็บศพทหารกัมพูชา พลโท บุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของทหารกัมพูชา และเราไม่มีคำสั่งให้ไปเก็บศพทหารกัมพูชาแต่อย่างใด โดยให้กัมพูชาดำเนินการเอง

เมื่อถาม ปัญหาช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี วานนี้ มีเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย เรื่องการรื้อรั้วลวดหนาม พลโท บุญสิน กล่าวว่า เขาพยายามขึ้นมา มีกระทบกระทั้งนิดหน่อย แต่ไม่พกอาวุธขึ้นมา แต่เรายืนยันว่ามีความจำเป็น เพื่อป้องกันการวางกำลังของฝ่ายเรา ยืนยันช่องอานม้าไม่มีอะไร และทหารกัมพูชาก็กลับลงไปแล้ว

เมื่อถามว่า อนาคต อาจมีปัญหาขึ้นอีกหรือไม่ เพราะกัมพูชาเรียกร้องให้ทหารไทยออกจากช่องอานม้า พลโท บุญสิน กล่าวว่า เป็นปกติ แต่เราไม่ถอย ซึ่งทั้ง 11 จุด เราทำแบบเดียวกัน คือ การวางรั้วลวดหนาม และนำกำลังไปวางไว้ บนภูมะเขือ ก็เช่นกัน มีการวางกำลัง เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เรียบร้อยต่อแผ่นดิน และยืนยันว่า เราอยู่ในเขตประเทศไทย ไม่ได้รุกล้ำหรือยึดพื้นที่นอกประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและกองทัพอยู่แล้ว

เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสจัดระเบียบชายแดนหรือไม่ พลโท บุญสิน กล่าวว่า ส่วนของกองทัพ เราจัดระเบียบไปเรื่อยๆ ส่วนการเจรจาอะไรที่ยั่งยืนก็ให้เป็นเรื่องของรัฐบาล

เมื่อถามว่า วันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ทั่วไปชายแดน ไทย-กัมพูชา (จีบีซี)อาจได้ข้อสรุปและนำเข้า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เบื้องต้นเป็นอย่างไรบ้าง พลโท บุญสิน กล่าวว่า หวังว่าทิศทางจะดีขึ้น เพราะเราไม่อยากให้ใช้กำลังต่อกันอยู่แล้ว ซึ่งต้องดูว่าจะลงตัวอย่างไร ส่วนจุดยืนของกองทัพ ยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เราเห็นพ้องต้องกันว่า เราจะไม่ถอยกำลัง อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น

ถือว่าเป็นท่าทีเด็ดขาด ของฝ่ายทหารไทย ที่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ยอมถอนกำลังออกมาหรือ “ถอยออกมา” อย่างเด็ดขาด เพราะเวลานี้ทหารไทยได้ทำการยึดพื้นที่ที่เคยเป็นอธิปไตยของไทย แต่ถูกฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามานานนับสิบปีแล้ว และที่ผ่านมาเหมือนกับว่าทั้งฝ่ายการเมือง และ “นายทหารบางคน” มีความอะลุ่มอล่วย ไม่มีความใส่ใจ จนถูกกล่าวหาว่า “มีผลประโยชน์ทับซ้อน” ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น หากมองในแง่บวกการสู้รบที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ภายใต้การบัญชาการของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง จากการสู้รบกับฝ่ายกัมพูชาบริเวณชายแดนทำให้สามารถยึดคืนพื้นที่ที่เคยเสียไปกลับมา โดยเฉพาะในพื้นที่ 11 จุดสำคัญที่ พล.ท.บุญสิน ย้ำว่า จะ “ไม่ถอนกำลัง” อย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกันยังมีการ “จัดระเบียบชายแดน” กันใหม่ หลังจากมีการปล่อยปละละเลยจนขาดระเบียบกันมานาน ทำให้มีการรุกล้ำเข้ามา ทำให้ไทยต้องสูญเสียอธิปไตย โดยล่าสุดมีการล้อมรั้วลวดหนาม เพื่อกั้นอาณาเขต และแสดงอาณาเขตให้เกิดความชัดเจน

ซึ่งเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวย่อมตรงใจความต้องการของคนไทยส่วนใหญ่แน่นอน ถึงขั้นมีการเสนอให้มีการสร้างรั้วกั้นตลอดแนวชายแดนเสียด้วยซ้ำไป แม้ว่าในความเป็นจริงอาจจะทำยาก แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องนี้ เพราะรับรู้แล้วว่า ในอนาคตความสัมพันธ์และความรู้สึกต่อกัมพูชา จะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะมัน “ร้าวลึก” จนยากที่จะประสานกันได้แล้ว

ที่สำคัญความรู้สึกของ “สองพ่อลูกเขมร” คือ นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ซึ่งล่าสุดได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้บัญชาการทหาร และ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ไม่มีทางเป็นมิตรกันอีกต่อไป เพราะไว้ใจไม่ได้ และคนไทยก็ไม่มีทางเชื่อใจสองพ่อลูกพวกนี้ได้อีกต่อไปเช่นเดียวกัน

ดังนั้น หากให้สรุปถึงอารมณ์และความรู้สึกของคนไทยยามนี้ก็ต้องบอกว่า สำหรับบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงเวลาต้อง “จัดระเบียบ” กันใหม่ให้ชัดเจน และสนับสนุน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีท่าทีเด็ดขาด ในเรื่องอำนาจอธิปไตยของไทย รวมทั้งไม่ยอม “ถอยกำลัง” ออกมาจากพื้นที่สำคัญทั้ง 11 จุด ที่ไทยยึดครองเอาไว้ มีการล้อมรั้วลวดหนามในเบื้องต้นเอาไว้ก่อน เพื่อแสดงอาณาเขตเอาไว้ !!



กำลังโหลดความคิดเห็น