สธ. ถกวิกฤตน้ำท่วม-ปะทะชายแดน “สมศักดิ์” เตรียมสระแก้ว ติดตามศูนย์พักพิงพร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหาย รพ.พนมดงรัก ยืนยันบุคลากรแพทย์ดูแลครบ 1,182 ทีม คัดกรองพบผู้เครียดสูงเกือบ 4.5 พันราย มั่นใจกลิ่นเหม็นไม่ทำให้เกิดโรคติดต่อ
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 8/2568 โดยมีนายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรสาธารณสุขเข้าร่วม
นายสมศักดิ์กล่าวแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรี พร้อมให้กำลังใจบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานท่ามกลางวิกฤตน้ำท่วมและสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า น้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังต้องเร่งประเมินความเสียหาย เช่น จ.น่าน เบื้องต้นเสียหายกว่า 275 ล้านบาท พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์น้ำท่วมและเหตุปะทะชายแดน หลังจากที่ตนได้แสดงจุดยืนประณามการโจมตีโรงพยาบาล ล่าสุดเตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ในวันพรุ่งนี้ เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ต้องอพยพ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานจัดทำเบอร์โทรติดต่อตรงเพื่อเข้าศูนย์อพยพให้ง่ายขึ้น อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
สำหรับสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ โรงพยาบาล 20 แห่ง เปิดบริการปกติแล้ว 5 แห่ง ปิดบางส่วน 12 แห่ง ปิดทั้งหมด 3 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 149 แห่ง เปิดปกติ 37 แห่ง ปิดบางส่วน 31 แห่ง ปิดทั้งหมด 81 แห่ง ทีมปฏิบัติการในพื้นที่มีทั้งหมด 1,182 ทีม ดำเนินการดูแลด้านจิตใจประชาชน โดยได้คัดกรองประชาชนแล้ว 79,326 ราย พบผู้มีความเครียดสูง 4,452 ราย และผู้มีแนวโน้มเสี่ยงฆ่าตัวตาย 492 ราย
ในการประชุมยังได้หารือเรื่องโครงการมอบโควตาและสิทธิพิเศษทางการศึกษาในสถาบันพระบรมราชชนก ภายใต้โครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว (โครงการ 9 หมอ) เพื่อช่วยเหลือบุตร ธิดา คู่สมรส หรือพี่น้องร่วมสายโลหิตของข้าราชการทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และประชาชนที่เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือทุพพลภาพจากเหตุการณ์ปะทะ ให้มีสิทธิเรียนฟรีตลอดหลักสูตร และเสนอ ครม. เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการใน รพ.สต. บ้านเกิดเมื่อสำเร็จการศึกษา
ด้านนายอนุชา สะสมทรัพย์ กล่าวว่า ตนขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งทราบว่าทุกคนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย พร้อมกำชับให้ระวังโรคติดต่อที่อาจแพร่ระบาด
นายสมศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ที่ประชุมผู้บริหาร สธ. ได้หารือเรื่องอุทกภัยในภาคเหนือ และสถานการณ์ชายแดน โดยกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการดูแลศูนย์พักพิงชั่วคราว หากการเจรจากับกัมพูชาในวันพรุ่งนี้สิ้นสุดลง ก็ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพกลับของประชาชน โดยทีมแพทย์ต้องเข้าไปดูแลทันที โดยโรงพยาบาลพนมดงรักได้รับความเสียหายมากที่สุดประมาณ 46 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายสิ่งก่อสร้างและวัสดุกว่า 146 ล้านบาท ซึ่งเตรียมดำเนินการร่วมฟ้องร้องกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย
สำหรับผลกระทบจากพายุ “วิภา” ที่ประชุมระบุว่า จ.น่าน มีความเสียหาย 275 ล้านบาท รวมทั้งภาคเหนืออยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท โดยวันพรุ่งนี้ รัฐมนตรีฯ จะลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามการจัดการศูนย์พักพิง
เมื่อถามถึงการมอบโควตาเรียนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวง มีแผนเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ 10 ปี ส่วนรายละเอียดต้องให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการ เพราะขณะนี้ ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เนื่องจากมีหลายคนมองว่า โควต้าเรียนแพทย์คงให้ไม่ได้ เพราะต้องดูรายละเอียดการเรียนด้วย แต่ในส่วนวิชาชีพอื่น เช่นพยาบาล ก็จะมีรายละเอียดว่าจะได้อย่างไร ยืนยันว่า ต้องช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ส่วนปัญหากลิ่นเหม็นตามแนวชายแดน นายสมศักดิ์ยืนยันว่า ขอให้เกิดความสบายใจว่าไม่มีโรคติดต่อ เพราะทหารที่เสียชีวิต เป็นคนแข็งแรง ไม่ใช่คนป่วยมารบ ดังนั้น โรคระบาดไม่น่าเป็นห่วง ส่วนกลิ่น ก็ได้รับคำแนะนำจากกรมอนามัย กรมควบคุมโรค อาจมีสเปรย์บรรเทากลิ่น แต่ถ้าป้องกันกลิ่นได้คือ หน้ากากอนามัย N95 โดยกรมอนามัย ได้จัดส่งไปแล้ว 3,000 ชิ้น ตามความต้องการของพื้นที่