สว.ข้างน้อย ฝ่ากระแสล็อบบี้ เข้าชื่อ 30 คน ยื่น ถอดถอน 136 ส.ว. ปมปล่อยให้พรรคการเมืองครอบงำ หลัง 12 ส.ค. “นันทนา” แฉมีปฏิบัติการให้ถอนชื่อ-กดดันคดีจริยธรรม-เกือบชกหน้า
วันที่ 6 ส.ค. น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงถึงการรวบรวมรายชื่อ สว. เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาถอดถอน สว. 136 คน ออกจากตำแหน่ง กรณีเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ว่าด้วย สว.ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ พร้อมกับขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนการเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ ว่า จากการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า สว. 136 คนนั้นมีส่วนสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วเลือกสว. และฟอกเงิน ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญสามารถเรียกพยานหลักฐานจากดีเอสไอได้ จึงชัดเจนว่าจะเอาผิดได้
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่าในคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ สว. 136 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือ หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนนั้น เพราะมองว่าหากปล่อยให้ทำหน้าที่ถึง มี.ค.69 จะทำให้มีบุคลากรในองค์กรอิสระซึ่งถูกคัดเลือกจาก สว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งอาจถูกข้อกังขาต่อผลที่เกิดขึ้น จึงต้องป้องกันเพื่อไม่ให้หายนะเกิดขึ้น ทั้งนี้ในเดือนส.ค. จะมีกกต.ครบวาระ 2 คนและต้องเลือกใหม่ หากให้สว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินการเลือก จะกลายเป็นผลประโยชน์ขัดกัน ดังนั้นต้องหยุดการกระทำเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าและคนที่วินิจฉัยนั้นต้องไม่ใช่คนที่ถูกเลือกจากสว.ที่ถูกข้อกล่าวหา ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ที่เหลืออยู่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และหากมีคำวินิจฉัยให้พ้นนจากตำแหน่ง จึงจะเลื่อนสว.สำรองขึ้นมาทำหน้าที่
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประธานวุฒิสภา จะใช้มาตรฐานเดียวกับสว.เสียงข้างมากที่เคยส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับเรื่องช่วงเช้า และส่งศาลรัฐธรรมนูญตอนบ่ายทันที หวังว่าจะได้รับการปฏิบัติมาตรฐานเดียวกัน” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวปรากฎว่า สว.กลุ่มอิสระ จะยื่นเรื่องถอดถอนสว. พบว่ามีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ โทรศัพท์ล็อบบี้ให้ถอนชื่อ ดังนั้นตนจึงขอไม่เปิดเผยสว.ที่ร่วมเข้าชื่อ จนกว่าคำร้องจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกังวลใจมากต่อปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ และบล็อกไม่ให้ดำเนินการ และกังวลถึงเรื่องความปลอดภัย เพราะ สว.เสียงข้างมากมีเครื่องมือทำลายล้าง สว.เสียงข้างน้อย เช่น กลไกของกรรมการจริยธรรม ที่ตนถูกยื่นเรื่องตรวจสอบกรณีของ สว.ขายหมู ซึ่งพบว่า กรรมการจริยธรรม 22 คน มีเสียงข้างมากเป็น สว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 17 คน ซึ่งมีความพยายามกีดกันพยานและใช้การลงมติเสียงข้างมากเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงเพื่อส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
“นอกจากนั้นแล้ว น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ยังเกือบถูกชกหน้า ที่หน้าห้องประชุมสภา แต่มี นพ.วีระพันธุ์ สุวรรณามัย สว.ช่วยกันไว้ จึงถือเป็นปฏิบัติการทางร่างกาย บดขยี้สว.เสียงข้างน้อย ดังนั้นการลงชื่อครั้งนี้ ใครที่ลงชื่อเป็นผู้ที่เสียสละและกล้าหาญต้องปกป้องให้ถึงที่สุดจนกว่าเรื่องจะส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ” น.ส.นันทนา กล่าว
ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. ที่ร่วมลงชื่อ กล่าวว่า ขณะนี้มีสว.กลุ่มอิสระที่ร่วมลงชื่อแล้ว มีไม่มากและไม่น้อยกว่า 30 คน และเตรียมยื่นคำร้องดังกล่าว หลังวันที่ 12 ส.ค. นี้ อย่างไรก็ดียอมรับว่าขณะนี้มีการล็อบบี้ทางโทรศัพท์ยื่นข้อเสนอทุกอย่างให้กับสว.ที่ร่วมลงชื่อ ทั้งนี้การทำเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ทำไปเพราะความเกลียดชัง แต่ต้องให้เกิดการพิสูจน์ในข้อเท็จจริง และไม่ต้องการให้สว.ที่บริสุทธิ์ถูกเหมารวม หากเรื่องตรวจสอบถูกยื้อไปเรื่อยๆ จะเสียหายทั้งหมด
“ขณะนี้ สว.กลุ่มอิสระแทบไม่มีที่ยืน ไม่มีที่เดิน โดนหนักมาก หายใจอาจจะผิด สภาพจิตใจมีความกังวลและกลัว ไม่สบายใจ แต่ผมมั่นใจว่าความกลัวที่สุดของสว. คือ ไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรต้องทำ เมื่อมีโอกาส ต้องดำเนินการเพื่อเคลียร์ข้อสงสัยให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ สว.ดีๆ ถูกตำหนิ นินทา ซึ่งทุกวันนี้เวลาไปตลาดไม่กล้าบอกใครว่าเป็นสว.แล้ว” น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าว
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของสว. หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและสั่งให้สว.พ้นจากการทำหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญระบุว่า หากสว.เหลือไม่ครบ 100 คนให้เลือกตั้งใหม่ แต่ขณะนี้ยังมีบัญชีสำรองอีกกว่า 90 คน