“จตุพร” ปราศรัยปิดท้ายชุมนุมรวมพลังแผ่นดินฯ ซัด “ภูมิธรรม” ยอมหยุดยิงตามเวลาที่เขมรต้องการ ไม่ปรึกษาทหารก่อน ทำให้ไทยต้องเสียปราสาทตาควาย ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา จี้ฉีกข้อลงหยุดยิง แล้วชิงปราสาทกลับคืน ไม่เช่นนั้น “ภูมิธรรม” ต้องออกไป เตรียมนัดชุมนุมครั้งหน้า เริ่มต้นที่อนุาวรีย์ฯ เหมือนเดิม แต่จะไม่อยู่กับที่ จะเดินไปทำเนียบฯ เป้าหมายที่จะขับไล่
การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ยุติลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ที่ผ่านมา หลังจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ไก้กล่าวปราศรัยปิดท้าย
เนื้อหาการปราศรัยของนายจตุพร สรุปได้ว่า รัฐบาลชุดนี้ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนที่ปราสาทตาควาย เพราะความโง่ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ไปตกลงหยุดยิงกับกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 โดยยอมตามเงื่อนไขของกัมพูชาที่ขอหยุดยิงในเวลา 24.00 น.โดยที่ไม่สอบถามทหารก่อน ทำให้เสียเปรียบกัมพูชา เสียปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นการเสียดินแดนในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และเราไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่ชั่วช้าขนาดนี้มาก่อน
ทั้งนี้ นายจตุพรกล่าวว่า ในการเจรจาวันที่ 28 ก.ค.ถ้าไม่มั่นใจต้องถามผู้บัญชาการทหารก่อนว่าเรียบร้อยหรือยัง แต่นี่กลับไปหยุดยิงแล้วเสียเปรียบ เสียโง่ให้กัมพูชา นายภูมิธรรมจึงไม่มีสภาพที่จะเป็นคนไทยอีกต่อไป
นายจตุพรกล่าวว่า เวลาเราเสียเปรียบ เราก็อ้างความเป็นสุภาพบุรุษ แต่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทั้งในคืนวันที่ 28 และวันที่ 29 ซึ่งในเมื่อกัมพูชาไม่ปฏิบัติตาม เราต้องฉีกสัญญาหยุดยิงเสีย แล้วยึดเอาปราสาทตาควายกลับมาเป็นของไทยต่อไป
“ถ้าเรามีผู้นํา มีรัฐบาลที่เขาเอาชาติเอาบ้านเอาเมือง ใครมันจะโง่ไปเจรจาหยุดยิง ทั้งที่รู้ว่ายุทธภูมิหนึ่งเรากําลังเสียเปรียบ เราชนะอยู่ 10 ยุทธภูมิ แต่ยุทธภูมิหนึ่งเราเพลี่ยงพล้ำ เราต้องจัดการยุทธภูมิที่ประสาทตาควาย จะเสียเวลา 2 วัน 3 วันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่การจงใจหยุดยิงวันนั้น พี่น้องที่รักทั้งหลาย มันคือการทําลายหัวใจคนไทยทั้งชาติ ยากที่จะให้อภัย”
นายจตุพรกล่าวอีกว่า บ้านเมืองในขณะนี้ เราจึงฝากความหวังไว้กับใครไม่ได้ หลังจากเสียปราสาทตาควาย นายภูมิธรรม เวชยชัย ยังไม่ได้ออกมาขอโทษประชาชน ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่เป็นคนพาประเทศไปเสียดินแดนในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระมหากษัตริย์ คนรักบ้านรักเมืองทนให้รัฐบาลชุดนี้ไปสร้างความเสียหายได้อย่างไร
“ผมบอกกับพี่น้องเลยว่าถ้าพี่น้องคนไทยเราไม่ลุกขึ้นมา นักรบที่อยู่ในแนวหน้าเขาต้องได้รับกําลังใจ กําลังหนุนจากแนวหลังครั้ง 2 ครั้ง วันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่า คนแนวหลังไม่เคยลืมคนแนวหน้าพร้อมจะส่งกําลังใจให้ตลอดไปครับ พี่น้องที่รักทั้งหลาย ขอบคุณในความเสียสละอันยิ่งใหญ่ขอบคุณทุกชีวิตที่ได้พลีชีพเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง
“ผมเรียนกับพี่น้องว่าเราในฐานะภาคประชาชน แน่นอนที่สุด ผมรู้ว่าพี่น้องก็อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก แต่เราจะยากลําบากมากกว่านี้ถ้าเราสิ้นชาติ ถ้าเราไม่มีบ้านเมือง เราเสียอธิปไตยครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเราทบทวนกันดูดีๆ นะครับตอนเสมียนประเทศ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ดีๆ เสียไป 3 จังหวัดอีก 5 อําเภอของจังหวัดสงขลา 21 ปี 3 จังหวัดนั้นกลับมาไม่ได้เหมือนเดิม ช่วงจํานําข้า กระดูกสันหลังก็หัก จนกระทั่งเกิดกรณีพิพาทไทย-กัมพูชาที่มาจากเรื่องส่วนตัวของคน 2 ตระกูล นําพาจนกระทั่งทหารตาย ประชาชนตาย และประเทศไทยเสียดินแดน แล้วยังจะอยากอยู่ต่อในการบริหารประเทศ ผมเรียนกับพี่น้องว่าตั้งแต่เขากลับมาเนี่ยมันมีอะไรดีกับชาติบ้านเมืองบ้าง เขาไม่มาเราจะมีปัญหากับกัมพูชาทั้งที่เขาดีกันที่สุดแต่วันนี้กลายเป็นความหายะของชาติ”
นายจตุพรกล่าวอีกว่า เราต้องสําแดงพลังกันอีกครั้งใหญ่ครั้งหน้า เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะไม่อยู่กับที่แต่จะเดินไปยังเป้าหมายที่เราต้องการขับไล่ นี่เป็นนัยสําคัญ ครั้งหน้าคือการออกมานัดขับไล่ขับไล่รัฐบาลเจอกันที่อนุสาวรีย์ฯ เดินไปทําเนียบรัฐบาล
“ถ้าเราไม่ลุกขึ้นสู้เราก็อยู่ในสภาพแบบนี้ มันด้านได้อายอด รัฐบาลชุดนี้ไม่ต่างกับนางมาลีของกัมพูชานั่นแหละ หน้าด้านเหมือนกันเห็นดํามันก็บอกชาว เห็นขาวมันก็บอกดํา เห็นหมามันก็บอกว่าแมว เห็นแมวมันก็บอกว่าหมาสันดานเดียวกันไม่มีผิด
นายจตุพรกล่าวย้ำว่า สงครามยังไม่ยุติ เรื่องการเสียแผ่นดินที่ปราสาทตาควายอย่างไรก็จะไม่ยุติ ถ้านายภูมิธรรมไม่ฉีกข้อตกลงหยุดยิง นายภูมิธรรมก็ต้องออกไป ถ้านายภูมิธรรมไม่ออกไป เราก็จะไปไล่ให้ออกไป
“ผมเรียนกับพี่น้องเป็นประการสุดท้ายว่าการออกมาของพี่น้อง ในครั้งหน้าเราจะมีเวลานัดหมายกันพอสมควร ความเป็นจริงครั้งนี้ตั้งใจจะไว้ที่กลางเดือน แต่สงครามมาก่อน แล้วที่มันเจ็บปวดหัวใจการเสียแผ่นดินครั้งแรกในแผ่นดินรัชกาลที่ 10 คือวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน นี่เป็นสิ่งที่คนไทยต้องโศกเศร้าเสียใจที่สุดในชีวิตนี้แล้วพี่น้องที่ักทั้งหลาย” นายจตุพรกล่าว