xs
xsm
sm
md
lg

"วิโรจน์" ยอมทัวร์ลงดีกว่าเห็นไทยเพลี่ยงพล้ำเวทีโลก ด้วยการสนองความคับแค้น จี้รบ.ชิงเป็นผู้นำสื่อสาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สส.พรรคส้ม บอกยอมทัวร์ลงดีกว่าเห็นไทยเพลี่ยงพล้ำเวทีโลก ด้วยการตอบสนองความคับแค้น ชี้กัมพูชาจัดฉากหวังล้อมไทยด้วยภาพลักษณ์ – จี้รัฐบาลเป็นผู้นำสื่อสารสากล


วันนี้ (31ก.ค.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ากองทัพกัมพูชาเข้ายึดพื้นที่บริเวณประสาทตาควาย ว่า ขณะนี้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน เชื่อว่าจะมีการวางแนวทางในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องภาพถ่ายที่เผยแพร่ ต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นภาพที่ถ่ายไว้เมื่อใด และมีบริบทอย่างไร

นายวิโรจน์ ระบุว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือรัฐบาลต้องรีบออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ และระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลที่กระจัดกระจายผ่านโซเชียลมีเดียสร้างความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าการเคลื่อนไหวของกัมพูชานั้น “มีการจัดฉากและวางเส้นเรื่องไว้ล่วงหน้า” ทั้งการเชิญคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งหากไทยยังดำเนินการเพียงแค่ตอบโต้ก็จะตกเป็นฝ่ายตามหลัง

“สิ่งที่ไทยต้องทำไม่ใช่เพียงตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องชิงความเป็นผู้นำในการสื่อสารกับประชาคมโลก หากไม่ทำ ก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในเวทีโลกอย่างแน่นอน” นายวิโรจน์กล่าว

พร้อมกันนี้ เขายังเตือนให้ไทยอย่าตกหลุมพรางที่กัมพูชาวางไว้ เพราะอาจนำไปสู่การดำเนินการที่ขัดต่อหลักมนุษยชน หรือละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งอาจย้อนกลับมาทำลายความชอบธรรมของประเทศไทยเอง

“หลายคนถามว่าวิโรจน์โลกสวยหรือไม่ ผมยอมทัวร์ลงวันนี้ดีกว่าให้ประเทศไปเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก หรืออาจลามหนักไปถึงการสูญเสียอธิปไตย ผมไม่อยากให้ประเทศเราซ้ำรอย เราได้ตอบสนองความคับแค้นแต่มันไม่คุ้มกับการเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก ในใจลึก ๆ เราไม่แตกต่างกัน แต่ต้องข่มใจเพราะรู้ว่ามันไม่คุ้ม ในการตอบสนองความคับแค้นใจซึ่งผมก็มีไม่ต่างจากทุกคน ไทยต้องยืนอย่างสง่างามในเวทีโลกให้ได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ นายวิโรจน์ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่ามีโรงพยาบาลใน จ.อุบลราชธานี ปฏิเสธการรักษาผู้บาดเจ็บชาวกัมพูชา โดยยืนยันว่าโรงพยาบาลได้ชี้แจงแล้วว่าไม่ได้ปฏิเสธเพราะเชื้อชาติ แต่เป็นข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่าไทยยังเคารพอนุสัญญาเจนีวา ที่กำหนดให้การดูแลผู้บาดเจ็บต้องไม่เลือกปฏิบัติตามเชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะของความเป็นคู่พิพาท

เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชาพยายามรื้อฟื้นความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐอเมริกา นายวิโรจน์มองว่า ไทยต้องพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และใช้โอกาสนี้เดินสายเจรจากับประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ทั้ง 15 ประเทศ เพื่อสื่อสารความชอบธรรมและความอดกลั้นของไทยในการปกป้องอธิปไตยโดยไม่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

“กระทรวงการต่างประเทศของไทยยังมีบทบาทน้อยเกินไปในเวที UNSC ขณะนี้ไทยไม่ควรมัวแต่ตอบโต้ แต่ต้องชิงการเป็นผู้นำด้านการสื่อสารกับประชาคมโลกให้ได้แล้ว” นายวิโรจน์กล่าวย้ำ.


กำลังโหลดความคิดเห็น