xs
xsm
sm
md
lg

สว.สำรองยื่นกมธ.ป.ป.ช. จี้ กกต.เร่งวินิจฉัยปมเลือกวุฒิฯ ชี้ล่าช้าเกินปีเสี่ยงถูกมองละเว้น-สมรู้กลุ่มทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘คณะ สว.สำรอง’ ยื่น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ จี้ กกต.เร่งวินิจฉัยสำนวนเลือก สว. ชี้ล่าช้าเกินปีเสี่ยงถูกมองละเว้น-หวั่นสมรู้กลุ่มทุจริต

เมื่อวันที่ (30 ก.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสว.สำรอง ยื่นหนังสือกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการพิจารณาสำนวนการร้องเรียนการเลือก สว. ให้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมและด้วยความรวดเร็ว

คณะสว.สำรอง ชี้แจงว่า ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการของ กกต.ที่เป็นไปด้วยความล่าช้า และเข้าข่ายละเว้นไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและต่อมาคณะกมธ. ได้เชิญ คณะสว.สำรองให้เข้าร่วมประชุมและให้ข้อมูลกับคณะกมธ. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2568 และในวันประชุมดังกล่าว กกต.ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เข้าร่วมประชุม และได้ให้ข้อมูลในที่ประชุม และรับว่าจะไปดำเนินการ

ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนกลางชุดที่ 26 ได้ดำเนินการสืบสวนไต่สวน สรุปสำนวนการสืบสวนไต่สวนคดีการทุจริตการเลือกสว.2567 เสร็จสิ้น และได้เสนอต่อ กกต. เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 และต่อจากนี้เป็นการดำเนินการตรวจสอบพิจารณาโดยฝ่ายกฎหมายของ กกต. แล้วเสนอต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้งเพื่อพิจารณามีความเห็นเสนอต่อ กกต.เพื่อวินิจฉัยและมีความเห็นเสนอต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง โดยมีกรอบเวลาถึง 240 วัน

อีกทั้งตามความที่ประธาน กกต.ได้มีการแถลงสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไปแล้วนั้น เนื่องจากตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) 2566 ในข้อที่ 92 ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้เลขาธิการ กกต.เสนอสำนวนการสืบสวนหรือไต่สวนที่ได้ดำเนินการตามระเบียบนี้ต่อ กกต.โดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าขณะนี้เลยเวลานับแต่ประกาศผลการเลือกตั้งมาแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2568 ที่สำนวนการสืบสวนไต่สวนในเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะอยู่อย่างน้อยในขั้นตอนการวินิจฉัยข้อโต้แย้งแล้ว การที่มีความล่าช้าเกินกำหนดเวลาการดำเนินการของสำนวนการสืบสวนไต่สวนในคดีนี้จึงถือว่าเป็นความบกพร่องของ กกต.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องที่ กกต. มีส่วนทำให้ล่าช้ามาก่อนหน้านี้และป้องกันมิให้มีข้อครหาว่ามีการสมรู้ร่วมคิดกันกับกลุ่มทุจริตการเลือก สว.และยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาของชาติและประชาชนจึงขอให้ช่วยตรวจสอบและเร่งรัดให้ กกต.ได้โปรดเห็นแก่ส่วนรวมประเทศชาติ โดยเร่งรัดการดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ตามขอบเขตของอำนาจหน้าที่ ดังนี้

1.ขอให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน กกต. เร่งตรวจสอบขั้นตอนต่าง ๆ โดยเร็ว
2.สำหรับขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ เนื่องจากสำนวนมีความสมบูรณ์และอยู่ในความรับรู้ของ กกต. ซึ่งได้ให้คำปรึกษาและเห็นชอบมาตลอด จึงควรพิจารณาใช้ดุลพินิจตามข้อ 77 ของระเบียบฯ พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2566 ให้ยกเว้นการผ่านคณะอนุวินิจฉัย โดยสามารถส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาโดยตรง หรือหากจำเป็น อาจแต่งตั้งที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ กกต. ร่วมเป็นคณะอนุวินิจฉัย โดยควรดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ ก่อนเสนอให้ กกต. พิจารณา
3.แม้ระเบียบกำหนดกรอบเวลา 90 วันสำหรับการพิจารณา แต่กรณีนี้มิใช่เรื่องร้องเรียนทั่วไป เพราะ กกต. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 ขึ้นโดยเฉพาะ และมีการประสานขอความเห็นชอบจาก กกต. ตลอดกระบวนการ ทำให้ กกต. รับรู้ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนแล้ว จึงควรใช้เวลาไม่นานในการวินิจฉัยและส่งเรื่องต่อศาลฎีกาคดีเลือกตั้งโดยเร็ว ตามข้อ 82 ของระเบียบฯ ทั้งนี้ ประชาชนกำลังจับตา กกต. และคาดหวังว่าคำวินิจฉัยจะเป็นกุญแจคลี่คลายปัญหาทางการเมือง และป้องกันการตั้งเงื่อนไขถกเถียงเกี่ยวกับความชอบธรรมขององค์กรอิสระในอนาคต

อย่างไรก็ตาม จากคำแถลงของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ระบุว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยไม่เร่งรัด ประกอบกับกระแสข่าวว่ามีกลุ่มเสียผลประโยชน์พยายามถ่วงเวลา จึงเกิดความกังวลว่า กกต. อาจดำเนินการล่าช้าเกินควร จึงขอให้คณะกมธ. เร่งรัดและตรวจสอบการดำเนินงานของ กกต. ซึ่งเลยกำหนดตามระเบียบมาเกินหนึ่งปีนับจากวันที่ 10 ก.ค. 2567-10 ก.ค. 2568 และขอให้ กกต. ดำเนินการในส่วนที่เหลือโดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น