สบช่อง "มหาดไทย" สั่งจังหวัด เคาะฝุ่น! ศูนย์บําบัดยาเสพติดฯ ภายใต้ชื่อ "สถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมือง" นโยบายรัฐยุคก่อน ที่เคยได้งบดำเนินการ 1 ปี เกือบ 1 พันล้าน แต่รอบนี้ ให้เน้น "รักษาแบบระยะยาว" อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง เร่ง ต่อเติม/ซ่อมแซม/ขยาย อาคาร ห้องพัก เพิ่มเตียงนอน ห้องสุขา เป็นลําดับแรก แทนก่อสร้างใหม่ ขยายพื้นที่และเพิ่มจํานวนเตียง เผย ปี67 สธ. เคยให้ข้อมูล "ศูนย์ฯ ลักษณะนี้" ซ้ำซ้อน ทั่วประเทศ ทั้งระดับ จว. อำเภอ และท้องถิ่น 3,261 แห่ง
วันนี้ (29 ก.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้า ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คนใหม่ ที่ประกาศขีดเส้น 3 เดือน ปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน
โดยในเป้าหมาย ให้นําผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบําบัดรักษา อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ตามแผนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealer” ผนึกกําลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด
ล่าสุด มหาดไทย เวียนหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ฐานะผอ.ศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ทุกแห่ง ให้เตรียมความพร้อมการดําเนินการบําบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
ที่น่าสนใจ คือให้ จังหวัด เร่งจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมและมีความพร้อมสําหรับดําเนินการบําบัดรักษาและฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติดของจังหวัด รูปแบบ Residential care (การบําบัดรักษาระยะยาว) อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง
หนังสือ ระบุว่า หากสถานที่ดังกล่าว มีความจําเป็นต้องดําเนินการปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม ฯลฯ ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ให้จัดทําคําขอรับการสนับสนุนงบประมาณและประมาณการค่าใช้จ่าย
"ให้รายงานการปรับปรุงสถานที่ ต่อเติม ซ่อมแซมสถานที่ดังกล่าว อาทิ อาคาร ห้องพัก เตียงนอน ห้องสุขา ฯลฯ เป็นลําดับแรกก่อน"
สําหรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอํานวยความสะดวกอื่น ๆ อาทิ รั้ว กําแพง สถานที่ออกกําลังกาย ฯลฯ ให้ดําเนินการพัฒนาปรับปรุงในภายหลัง ให้จัดส่งคําขอรับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว ไปยังกรมการปกครอง ภายในวันที่ 1 ส.ค.2568
สําหรับจังหวัดที่มีสถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมือง กรมการปกครอง ให้ขยายพื้นที่และเพิ่มจํานวนเตียง ให้เพียงพอเพื่อรองรับผู้ติดยาเสพติดที่ถูกส่งตัวเข้ารับการบําบัดรักษาฯ
กรณีสถานที่ดังกล่าวข้างต้น ยังไม่ได้รับการจัดตั้งเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ประเภทสถานฟื้นฟูสมรรถภาพภาครัฐ ให้ยื่นคําขอจัดตั้งเป็น “สถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมืองจังหวัด" ต่อสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบําบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด สธ.
จากนั้น ให้ดําเนินการแต่งตั้งผู้อํานวยการสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่ปรึกษา ผู้ดําเนินการ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 30 คน เข้ารับการอบรม หลักสูตรของบุคลากรสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ของ สธ.
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความเห็น ต่อการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมในจังหวัด และศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอื่นของกระทรวงมหาดไทย ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ตามนโยบายรัฐบาล
กรณี สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เปิดรายชื่อ "ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม" ที่ได้ขึ้นทะเบียน ผ่านเว็บไซต์ของ สป.สธ. พบว่า มีความซํ้าซ้อนของชื่อศูนย์ ฯ เลขทะเบียน และเลขที่ตั้งฯ ซึ่งประสานให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง รวมทั้งสิ้น 3,261 แห่ง
ทั้งนี้ ได้แยกประเภท เป็นศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมในจังหวัด 76 แห่ง ศูนย์ฟื้นฟูฯ สาขาอำเภอ 660 แห่ง ศูนย์ฟื้นฟูฯ สาขาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 2,461 แห่ง ศูนย์ฟื้นฟูฯ สาขาหน่วยงานภาครัฐอื่น 28 แห่ง และศูนย์ฟื้นฟูฯสังคมอื่น 36 แห่ง
คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมาย ระบุว่า แม้เป็นการออกตามประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การจัดตั้งและรับรองคุณภาพศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม พ.ศ. 2565 ของ คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
"แต่รายชื่อศูนย์ฯ 3,261 แห่ง ซึ่งมิได้มีการพิจารณาตรวจสอบแต่ละสถานที่ ว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดตั้งหรือไม่"
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รัฐบาลสมัยนั้น ได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จัดตั้ง "ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมในจังหวัด" ตามโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2566
ได้รับการจัดสรร วงเงิน 826.68 ล้านบาท ให้กับกรมการปกครอง ดำเนินการใช้เวลาอบรมเป็นเวลา 1 ปี (ตั้งแต่ ต.ค. 2565-ก.ย.2566)
"ปค.สมัยนั้น มีนโยบาย X-ray ผู้เกี่ยวข้องในตำบล หมู่บ้านทั่วประเทศ ได้เป้าหมาย 119,195 คน และดำเนินการคัดกรองโดยยึดหลัก ผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา และป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าไปเป็นเหยื่อยาเสพติด"
โดยงบประมาณ 826.68 ล้านล้าน ประกอบด้วย ค่าอาหารสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม 516 ล้านบาท, ค่าสมนาคุณวิทยากร 104 ล้านบาท, ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม 75 ล้านบาท,
ค่าพาหนะสำหรับวิทยากร 69.60 ล้านบาท, ค่าบำรุงสถานที่ 27 ล้านบาท, ค่าพาหนะผู้เข้าร่วมอบรม 20 ล้านบาท, ค่าวัสดุอุปกรณ์ 5 ล้านบาท
ค่าถ่ายเอกสาร 4.5 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในพิธีเปิด-ปิด 3 ล้านบาท ค่าประกาศนียบัตร 1.5 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการติดตามผลการดำเนินงาน 6.8 แสนบาท.
ขณะที่ต้นปีก่อน ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย (ศอ.ปส.มท.) เวียนหนังสือสั่งการด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.จว.
ให้ดำเนินการสำรวจการจัดตั้ง "ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ระดับอำเภอ" โดยเร่งรัดให้ทุกอำเภอ จัดตั้งศูนย์ฯ และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ ให้จัดตั้งศูนย์ฯ ระดับอปท. ตามความเหมาะสม
ตามแผนรองรับปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิ.ย. - 31 ส.ค. 2567)
พบว่า แผนดังกล่าวมีกิจกรรมสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ในจังหวัด และศูนย์ฟื้นฟูฯ สาขาอำเภอ 878 แห่ง ซึ่งได้เตรียมจัดตั้งแล้ว
ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายสำหรับการประชุมคณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ/คณะทำงาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม
ค่าใช้จ่ายสำหรับการอำนวยการและบริหารจัดการของศูนย์พื้นฟูฯ ในจังหวัด และศูนย์พื้นฟูฯ สาขาอำเภอ ในลักษณะของค่าตอบแทน ค่าใช้สอย และวัสดุ โดยห้ามเบิกจ่ายในรายการครุภัณฑ์
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ เช่น ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก ,ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลา และค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน.