ฟาดแรง! “สส.กฤษฎิ์” ซัดบริษัทประกัน “ไร้มนุษยธรรม” บีบผู้เอาประกันรับเงื่อนไขใหม่ไม่เป็นธรรม เข้าข่ายฉ้อโกง หนุนฟ้องคดีหมู่ ชี้ รัฐนิ่งเสี่ยงวิกฤตศรัทธา

วันนี้ (23 ก.ค.) น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทประกันภัยรายใหญ่ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่า ถูกบีบบังคับให้ยอมรับเงื่อนไขใหม่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งการขึ้นเบี้ยประกันสุขภาพ 1.5-2.5 เท่า และกำหนดให้จ่ายร่วม (Co-payment) 20% ภายในเวลาเพียง 30 วัน

“นี่ไม่ใช่แค่การปรับเบี้ยธรรมดา แต่คือกลไกคัดทิ้งผู้ป่วย ที่ออกแบบมาเพื่อแสวงหากำไรบนความทุกข์ของประชาชน พฤติกรรมของบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายเอารัดเอาเปรียบอย่างเป็นระบบ และอาจล้ำเส้นไปถึง “การฉ้อโกงโดยแฝงสัญญาไม่เป็นธรรม” น.ส.กฤษฎิ์ กล่าว

น.ส.กฤษฎิ์ ระบุว่า มีพฤติกรรมหลายประการที่บริษัทประกันฯ กระทำต่อผู้เอาประกัน ซึ่งอาจเข้าข่ายหลอกลวงหรือเอาเปรียบอย่างร้ายแรง ได้แก่ เปลี่ยนเงื่อนไขกรมธรรม์โดยไม่มีแจ้งในสัญญาเดิม โดยให้เวลาตัดสินใจเพียงไม่กี่วัน ทั้งที่ผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียสิทธิ์การรักษา รวมถึงการบังคับกดยอมรับเงื่อนไขผ่านแอปฯ โดยไม่เปิดช่องให้ไตร่ตรอง และลอยแพผู้ที่ไม่สามารถรับเงื่อนไขใหม่ โดยไม่สามารถหาประกันใหม่ได้เพราะมีประวัติเคลม

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวต่อว่า ตนขอเสนอแนวทางแก้ไขโดยให้ผู้เสียหายรวบรวมหลักฐาน เช่น กรมธรรม์เดิม หนังสือเปลี่ยนเงื่อนไข ภาพหน้าจอแอปพลิเคชัน และยื่นร้องเรียนต่อสำนักงาน คปภ. และ สคบ. เพื่อให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสัญญาที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงเตรียมรวมกลุ่มฟ้องร้องแบบคดีผู้บริโภค (Class Action) ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ที่เปิดช่องให้ผู้เสียหายจำนวนมากสามารถดำเนินการพร้อมกันได้

“ในฐานะผู้แทนประชาชน ดิฉันจะยืนเคียงข้างทุกคน และประสานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสนับสนุนการฟ้องคดีแบบกลุ่มอย่างเป็นระบบ และจะช่วยผลักดันเรื่องนี้จนกว่าผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรม” น.ส.กฤษฎิ์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม น.ส.กฤษฎิ์ ได้ตั้งคำถามไปยังสำนักงาน คปภ. ซึ่งมีหน้าที่อนุมัติแบบประกันต่างๆ ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างรุนแรงนี้ ผ่านการอนุมัติของ คปภ.หรือไม่ และหากอนุมัติ เหตุใดจึงไม่มีการชี้แจงต่อสาธารณะ หรือหากไม่อนุมัติ เหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับบริษัทที่ละเมิด นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้กระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจสอบว่า มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ พร้อมเตือนว่าหากรัฐยังนิ่งเฉย อาจนำไปสู่วิกฤติศรัทธาต่อระบบประกันสุขภาพโดยรวมของประเทศ

“คนป่วยคือคนที่อ่อนแอที่สุด แต่กลับถูกผลักให้กลายเป็นคนที่ไร้สิทธิ์ที่สุด ถ้ารัฐไม่ลุกขึ้นมาปกป้อง แล้วเราจะมีรัฐไว้ทำไม?” น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวทิ้งท้าย