รมว.สาธารณสุข เปิดแผนพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์การแพทย์ 3 ระยะ มั่นใจแม่นยำ ปลอดภัย ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ตั้งเป้ายกระดับระบบบริการสุขภาพไทยสู่มาตรฐานโลก
วันนี้( 22 กรกฎาคม ) ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมและปาฐกถาพิเศษในงานประชุมเชิงปฏิบัติการหุ่นยนต์ทางการแพทย์และระบบสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วม
นายสมศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายยกระดับ “30 บาทรักษาทุกที่” ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ทางการแพทย์มาใช้ในระบบบริการสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่สะดวก ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง ลดความผิดพลาดและภาวะแทรกซ้อนในการรักษา เทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์ถือเป็นนวัตกรรมขั้นสูงที่หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี และจีน ให้ความสำคัญ สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศที่ใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดแล้ว ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นายสมศักดิ์กล่าวว่าประเทศไทยมีหุ่นยนต์ผ่าตัดแล้ว 16 ยูนิต แบ่งเป็นโรงพยาบาลราชวิถี 1 ยูนิต โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย 12 ยูนิต และโรงพยาบาลเอกชน 3 ยูนิต ให้บริการผ่าตัดระบบทางเดินปัสสาวะ ทรวงอก ศีรษะ-ลำคอ นารีเวช และศัลยกรรมทั่วไป
นายสมศักดิ์เผยว่า ได้วางแผนพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 3 ระยะ ได้แก่
1. ระยะที่ 1 (ปี 2568–2570) พัฒนาบุคลากรและกำหนดมาตรฐาน เริ่มต้นในโรงพยาบาลนำร่อง 5 ภาค
2. ระยะที่ 2 (ปี 2571–2572) ขยายผลไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม
3. ระยะที่ 3 (ปี 2573 เป็นต้นไป) ประเมินผลและพัฒนาให้ยั่งยืน
นอกจากนี้ กระทรวงยังเตรียมระบบรองรับทั้งด้านบุคลากร ข้อมูล เทคโนโลยี การเงิน และธรรมาภิบาล เพื่อการใช้งานที่ครอบคลุม เครื่องมือผ่าตัดที่ใช้ AI ไม่เป็นอันตราย มีระบบป้องกันครบถ้วน และสามารถผ่าตัดได้หลายจุดในร่างกายจากเครื่องเดียว
“เชื่อว่าการประชุมวันนี้เป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบสุขภาพไทย ประชาชนจะเข้าถึงบริการที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศในระยะยาว” นายสมศักดิ์กล่าว
