xs
xsm
sm
md
lg

“อรรถกร - อัครา” เร่งปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ “ลุ่มน้ำตาปี - พุมดวง” จ.สุราษฎร์ กำชับต้องใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(20 ก.ค.)นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี - พุมดวง พร้อมรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ และมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ณ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี - พุมดวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

นายอรรถกร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมชลประทาน ได้ดำเนินการการก่อสร้างโครงการพัฒนาลุ่มน้ําตาปี-พุมดวง ระยะเวลาโครงการ 13 ปี ตั้งแต่ปี 2552 - 2564 งบประมาณ 3,330 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 73,980 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พุนพิน และ อ.ท่าฉาง ราษฎร 11,750 ครัวเรือน ใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค – บริโภคของราษฎรในพื้นที่ และสนับสนุนการเพาะเลี้ยงชายฝั่ง โดยการส่งน้ำจืดผสมกับน้ำเค็ม

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน สถานีสูบน้ำ ไม่สามารถสูบน้ำได้ เนื่องจากปริมาณน้ำและระดับน้ำที่ไหลผ่านสถานีสูบน้ำของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี - พุมดวง มีระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงไม่สามารถสูบน้ำส่งเข้าคลองส่งน้ำได้ในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงไม่สามารถสูบน้ำระบบชลประทานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จได้ ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมชลประทานจึงดำเนินการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำ ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำจากคลองพุมดวงในช่วงที่ระดับน้ำในคลองต่ำ เข้าสู่บ่อพักน้ำของโรงสูบน้ำตาปี-พุมดวง ที่มีอยู่แล้ว เพื่อรักษาระดับน้ำในบ่อพักให้สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้สามารถสูบน้ำส่งให้กับคลองส่งน้ำ MC1 และคลองส่งน้ำ MC2 ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรมของโครงการได้ตามวัตถุประสงค์

ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างผนังคอนกรีตรับท่อส่งน้ำและผนังชั่วคราว (Sandbag) รวมทั้งเตรียมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่จะสูบส่งน้ำเข้าสู่บ่อพักน้ำของสถานีสูบน้ำ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถสูบน้ำได้ภายในเดือนกันยายน 2568

“วันนี้ตั้งใจลงมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ค้างคามากว่า 10 ปี เพราะงบประมาณต่างๆ ที่นำมาใช้นั้น เป็นภาษีของประชาชน แต่โครงการยังไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ หาแนวทางแก้ไขเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้น้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างเต็มศักยภาพของโครงการ สำหรับปัญหาเกษตรในด้านอื่นๆ จะเร่งนำกลับไปแก้อย่างเร่งด่วน” นายอรรถกร กล่าว

โอกาสนี้ นายอรรถกร และนายอัครา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง อาทิ มอบโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 389 ฉบับ ปุ๋ยหมัก พด.1 น้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ หญ้าอาหารสัตว์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรได้เข้ารับบริการและองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการต่อยอดอาชีพเกษตรกรต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น