xs
xsm
sm
md
lg

"แม้ว" ซัด "ฮุนเซน" คนไร้จริยธรรม แต่เรากลับไปเข้าข้าง พรรคที่เพิ่งหลุดจากรัฐบาลหาว่า "ลูกอิ๊งค์" ขายชาติ ถามกลับเป็นคนไทยหรือเขมร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทักษิณ" ควง ”ลูกอิ๊งค์“ พร้อมคนตระกูลชิน ร่วมงาน ”ปลดล็อคอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก" ก่อนขึ้นปาฐกถาพิเศษ ซัด "ฮุนเซน" คนไร่จริยธรรมแต่คนไทยกลับเชื่อ งงปมคลิปเสียงทำไมคนไทยไม่รักกัน ลั่นสงสัยพรรคที่เพิ่งหลุดจากรัฐบาลเป็นไทยหรือเขมร มาด่าลูกอิ๊งค์ขายชาติ ถามเป็นคนไทยหรือเขมร เล็งแก้ปัญหาหนี้สิน จัดตั้ง AMC ซื้อหนี้ บอกถึงเวลาต้องแก้ไขระบบราชการให้มีศักยภาพ - เก็บ Fee ลดจ่ายใต้โต๊ะ ถึงเวลาปรับลดงบทหาร ปรับเปลี่ยนยุทโธปกรณ์ หลายสิ่งเก็บซากไว้เบิกค่าน้ำมัน ยันไม่มีการเปลี่ยนนายกฯ และตนจะเป็นเสมียนรวบรวมเรื่องต่างๆ ให้

วันนี้ (17 ก.ค.68) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมปาฐกถาพิเศษ ในงานเสวนาปลดล็อคอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก(Unlocking Thailand’s Future) โดยมีคนการเมือง และภาคธุรกิจแห่ร่วมงาน อาทิ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และคู่สมรส นายปิฎก สุขสวัสดิ์ นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี รวมถึง นายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ

ขณะที่กลุ่มรัฐมนตรีส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชูศักดิ์ ศิรินิล

นายสุชาติ ตันเจริญ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่รัฐมนนรีต่างพรรคมีพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ภาคธุรกิจ อาทิ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

โดยวันนี้นายทักษิณจะขึ้นปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ปลดล็อคอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤติโลกและพลิกเกมเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต ก่อนจะให้สัมภาษณ์


นายทักษิณ ได้ขึ้นเวทีปาฐกถา เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.โดยกล่าวว่า ตนพูดมาหลายรอบมีเรื่องใหม่บ้างเก่าบ้าง และเรื่องเคยพูดสมัยเมื่อเป็นนายกฯ 20 ปีที่แล้ว วันนี้มันไม่ค่อยไปไหน หลายเรื่องมีถอยไปด้วยซ้ำ ตนก็งงว่าจากประเทศไปหลายปี กลับมาเจอหลายเรื่องแย่กว่าเดิม แต่ละเรื่องก็ก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวข้องกับภาคเอกชน หรือส่วนราชการ ที่มีคนเก่งๆ ประเทศไทยวันนี้เราต้องการความเชื่อมั่น ในหมู่คนไทยด้วยกัน

วันนี้บางทีคนไทยก็ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่พยายามที่จะร่วมพลังกัน ให้มีความเป็นหนึ่งเพื่อจะแก้ไขปัญหาด้วยกัน

“เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ตนก็แปลกใจ ผู้นำเขมร ไอ้มันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมงงว่าทำไมวันนี้คนไทยไม่รักกัน ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิด ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน แต่ว่าเรากลับอื้ม.. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพิ่งหลุดออกไปจากรัฐบาลนี้ ก็กลับมามองว่าเป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ว่าตกลงเค้าเป็นเขมรหรือเป็นไทย ไม่แน่ใจ” นายทักษิณ กล่าว

ซึ่งหลังนายทักษิณ กล่าวประโยคนี้จบก็มีเสียงปรบมือในห้องประชุม

นายทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่เราสะดุดปัญหาของประเทศ อย่างแรกคือปัญหาการเมือง การเมืองในสมัยรัฐธรรมนูญปี40 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน วันนั้นพรรคไทยรักไทยเข้ามา เลือกตั้งครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่ขายนโยบาย แล้วชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ตอนหลังความแข็งแรงของพรรคไทยรักไทย ในช่วงรัฐธรรมนูญปี40 เมื่อมีการปฏิวัติก็เลยถอยกลับ วันนี้การตั้งรัฐบาลผสมและหลายพรรค ก็นึกถึง 51 ปีที่แล้ว ตอนช่วยราชการอยู่กับ นายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย โดยมีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนกันเลยการเมืองไม่มีเสรีภาพ ล้มกันไปล้มกันมา ผลสุดท้ายบ้านเมืองไม่ไปไหน แต่ตนอยากขอร้องทุกคนว่า การเมืองเปลี่ยนเเปลงได้ แต่บ้านเมืองต้องถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือข้าราชการต้องทำงานต่อไป ภาคเอกชนก็ต้องทำงานต่อไป และรัฐบาลก็มีหน้าที่สนับสนุน ให้ภาคเอกชนแข็งแรง


นายทักษิณกล่าวว่า อีกเรื่องที่เราสะดุด คือเรื่องภาษีทรัมป์ ที่เรากำลังเจรจาอยู่ ทีมไทยแลนด์กำลังเจรจาอยู่ โดยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็นั่งกำกับ ไม่ให้เราเสียเปรียบ ไม่ให้เราถูกเบียดเบียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร อย่างที่ตนเคยบอกว่ามี3 ก้อน ก้อนหนึ่งคือเราเอาของเข้ามาจากจีน แล้วประกอบและส่งไป เป็นผลิตในประเทศไทย อีกสองคือส่งไปในอเมริกา โดยเทคโนโลยีและบริษัทอเมริกัน มาตั้งในประเทศไทย สองตัวนี้จะไม่กระทบอะไรกับเรามาก แต่ที่กระทบมากคือตัวที่เกี่ยวข้อง กับสินค้าที่เราส่งไป เช่นสินค้าเกษตร สินค้า SMEs หรือพวกอัญมณี ซึ่งเรากำลังแก้ไข และให้แนวทางกันว่า ถ้าเราจะนำเข้าสินค้าจากอเมริกา แล้วมาแข่งขัน กับสินค้าที่เรานำเข้าจากประเทศอื่น ก็เป็นเรื่องที่ดี เรายอมรับให้เข้ามาแข่งกันเอง เช่นเนื้อ ที่จะมีการแข่งขันกับออสเตรเลีย หรือมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ก็ไม่เป็นอะไร หลายอย่างที่เราเปิดได้เราก็เปิด สิ่งที่เราเปิดวันนี้เราก็คุยกัน น่าจะเป็นข้อเสนอ ที่นำไปสู่การตกลงใจกันได้ แต่ให้จำไว้ว่า คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ นี่เป็นลักษณะการเจรจาธุรกิจ คำว่าประเทศ เขาใช้คำว่า Economic ก็คล้ายๆธุรกิจ ที่ต้องเจรจากันต่อเนื่องตลอดไป เพราะฉะนั้นเราหยุดตรงนี้ไม่ได้

นายทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศเราอีกอัน จากการวิเคราะห์ทั่วโลก GDP ของประเทศไทย โตน้อยเกินศักยภาพ ไประหว่าง 22-75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เราอยู่อันดับที่ 24 ของโลก GDP ที่โตช้า มาจากหลายสาเหตุ ซึ่งการบริหารจัดการที่ผิดพลาดเป็นเรื่องใหญ่ คือเราบริหารโดยไม่บริหารมานาน ไม่มีกลยุทธ์ ว่าจะแข่งขันกับเขาอย่างไร ทำให้เราช้า อีกเรื่องคือธนาคารแห่งประเทศไทย พยายามจะรักษาสถานะ ของธนาคารพาณิชย์ เพราะกลัวธนาคารพาณิชย์จะพลาด เหมือนยุคต้มยำกุ้ง ทำให้ดึงฐานเงินออกจากระบบ เป็นจำนวนมาก จนทำให้ธนาคารพาณิชย์มีความเสี่ยงน้อย ธุรกิจก็เหนื่อย ไม่รู้จะไปหาแหล่งทุนที่ไหน ประกอบกับการที่เราไม่ป้องกันตัวเอง พอจีนส่งสินค้าเข้ามา มีคอรัปชั่นตามชายแดน ศุลกากรต่างๆ ก็ทำให้SMEsของเราตาย ซึ่งเราสู้เขาไม่ได้ ในเชิงของ Economies of Scale อยู่แล้ว และเทคโนโลยีเราก็ไม่ค่อยทันสมัย มาเจอสินค้าที่เข้ามาทุ่มตลาด ราคาถูกโดยไม่ผ่าน มอก. และไม่มีอย. พอตนต่อว่าไป เขาบอกว่าอย.ขอยากมาก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องไปแก้กติกาของเรา นี่เป็น3ข้อที่ทำให้เศรษฐกิจไทย ชะงักเงินในช่วงนี้

นายทักษิณ กล่าวว่า ตนพยายามอย่างยิ่ง ที่จะจัดตั้ง AMC ( Asset Management Company) หรือ บริษัทจัดการสินทรัพย์ ของภาคประชาชน เพราะหนี้ครัวเรือนสูงเหลือเกิน แต่คลังยังไม่รับลูกเท่าไหร่ แต่ตนเชื่อว่าเที่ยวนี้มันจำเป็น วันนี้นี่ครัวเรือนสูง อาจจะต่อเนื่องมาตั้งแต่โควิด-19 และคนไทยก็ไปเสียเงิน จากการเล่นหวยเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งวันนี้หนี้สินอยู่ที่ 92% ของGDP วันนี้ถ้าเราซื้อหนี้ภาคประชาชน ออกมาจัดตั้งAMC ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์ กับ AMC ที่มีอยู่ แต่สามารถทำในสาขาแยกออกมาได้ ถ้าใช้พันธุ์เดียวกันจะมีปัญหา ใช้กฎหมายเดียวกันได้ แต่ต้องแยกมนุษย์คนละพันธ์ุมาบริหาร เพราะเป็นลูกค้าคนละกลุ่ม พร้อมย้ำว่า AMC จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเอาจริงจัง ถ้าไม่ทำคนไทยหายใจไม่ได้ กำลังซื้อจะไม่กลับมา และไม่มีทางที่จะดิ้นรนทำมาหากิน ในเรื่องใหม่ๆได้

นายทักษิณกล่าวอีกว่า การลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อย่างเรื่องไฟฟ้า วันนี้ตนอยากจะพูดยาวหน่อย วันนี้ถ้าเราใช้รถไฟฟ้า แต่ถ้าเป็นของจีนทั้งหมด เราเจ๊งก่อน แล้วจะทำอย่างไร ถึงจะสร้างอุตสาหกรรม ที่มีอีโคซิสเต็มส์ (Ecosystem) ของเรา ที่แข็งแรงแล้ว โดยใช้โรงงานผลิตในประเทศไทย ใช้อุตสาหกรรมต่อเนื่องทางรถยนต์ ที่เรามีระบบที่ดีอยู่แล้วให้ได้ แล้วส่งเสริมไฟฟ้าอย่างจริงจัง มันเป็นเรื่องที่ควรต้องทำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ภาคประชาชน


นายทักษิณ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง 20 บาทตลอดสาย สิ่งที่เราคิดวันนี้ต้องลดค่าจราจร ซึ่งตนเป็นคนเสนอสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ซึ่งปรากฏว่าคนยังใช้ไม่มาก เพราะไม่มีฟีดเดอร์ และวันนี้หากลดค่าบริการลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย ทำให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ และนำรถเมล์เปลี่ยนเป็นฟีดเดอร์ เราจึงจะประสบความสำเร็จที่สุด เพื่อให้ประชาชนใช้ระบบสาธารณะ และรถราต่างๆจะลดน้อยลง ขณะเดียวกันถนนใหญ่ๆต้องทำถนนชาร์จไฟแบบไร้สาย ซึ่งต่างประเทศเขาทำกัน เพื่อนำเงินส่วนนี้มาเป็นเงินอุดหนุนให้กับคนทั่วไปที่ใช้รถสาธารณะ ซึ่งจะเร่งให้เสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้

นอกจากนี้ประสิทธิภาพของภาครัฐเป็นปัญหามาก เพราะส่วนราชการใหญ่ขึ้นจำนวนข้าราชการมีมากขึ้น และการบริการแย่ลง เมื่อก่อนตอนที่ตนอยู่เราพยายามให้ข้าราชการให้บริการ รวมถึงช่วงวันเสาร์อาทิตย์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งวันนี้ต้องมาแก้ไขระบบราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และถ้าจะปรับโครงสร้างระบบราชการทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นองค์กร ระเบียบกฎหมาย และงบประมาณ ซึ่งอาจจะขอให้มหาวิทยาลัยรับไปดูแลในแต่ละกระทรวงเพื่อทำแผน และนำเสนอให้กับรัฐบาลเพื่อเห็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารของระบบราชการ และต้องพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐลง เพราะวันนี้ค่าใช้จ่ายภาครัฐสูงมาก สูงจนไม่มีเงินจะบริหาร จึงต้องดูว่าจะปรับปรุงข้าราชการอย่างไร

นายทักษิณ กล่าวว่า เช่นที่ดูไบไม่มีภาษี แต่เขามีคำว่า Fee คือการเก็บค่าธรรมเนียมบริการใช้บริการของภาครัฐ และนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นสวัสดิการของข้าราชการ ซึ่งจะทำให้การบริการดีขึ้น และไม่มีใต้โต๊ะ และคำนวณได้ว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่ ในการเดินงานแต่ละเรื่อง ทั้งอย่างรวดเร็วทันใจ และเป็นระบบดิจิทัลไลท์หมด ดังนั้นวันนี้ต้องแก้ไขระบบราชการให้ทันสมัย และประหยัด รวมถึงพยายามเก็บเป็น Fee มากกว่าใต้โต๊ะ เช่น ที่ข้างบ้านเล็กๆ 60 ตารางวา ขอรังวัดที่ดินมีค่าธรรมเนียมถูกต้องตามกฏหมาย และมีค่าวัดขั้นตอนเพื่อให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งแพงกว่าค่าธรรมเนียม เราก็ต้องจ่ายไม่เช่นนั้นก็ไม่ได้รังวัดสักที นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ดังนั้นสู้เก็บบนโต๊ะ และเก็บมากหน่อยเพื่อนำไปแบ่งกับข้าราชการ เป็นค่า Fee จะดีจะดีกว่าหรือไม่ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องรีบ ส่วนงบประมาณของรัฐต้องประหยัด เช่น วันนี้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั่งอยู่สำหรับเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งมีการกลบงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี แต่กลับไม่ได้ไปรีวิวว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนไป การบริการค่าใช้จ่ายผิดไปแล้ว ต้องเริ่มที่การจัดทำงบประมาณโดยความจำเป็น (Zero Based) ได้หรือไม่ ซึ่งต้องคำนวณว่าเป็นเท่าไหร่ต่อหัว อาจจะทำให้เราประหยัดได้มาก ไม่ใช่กลบไปเรื่อยๆไม่เช่นนั้นสวัสดิการบ้านเราจะรับไม่ไหว

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณทหาร ซึ่งสูงขึ้นมากระหว่างที่ตนไม่อยู่ น่าจะถึงเวลาที่ต้องหาทางลดและปรับ เพราะต่อไปจะเป็นสงครามไซเบอร์ ต้องปรับเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่เช่นนั้นเราจะล้าหลังและล้าสมัย รวมถึงสิ้นเปลือง ซึ่งหลายอย่างเราเก็บซากไว้เพื่อเบิกค่าน้ำมัน เราต้องแก้ไขในจุดนี้ ดังนั้นระบบสวัสดิการของข้าราชการจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าใช้มหาวิทยาลัยเข้าไปดูแต่ละกระทรวงว่าจะปรับอะไรได้บ้าง ดีกว่าเอานักการเมืองเข้าไปดู เขาจะหาว่านักการเมืองไปกลั่นแกล้ง พร้อมย้ำว่า ต้องลดค่าใช้จ่ายภาคประชาชน และภาครัฐ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่ทำให้สะดุดปัญหาของประเทศที่ทำให้ประเทศนั้นชะงักอยู่ อันแรกคือปัญหาการเมือง ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ตอนนั้นพรรคไทยรักไทยเข้ามาจากการเลือกตั้งครั้งแรก โดยเป็นการขายนโยบาย และชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ตอนหลังความเข้มแข็งของพรรคไทยรักไทย หลังมีการปฏิวัติกลับถดถอย วันนี้การตั้งรัฐบาลผสมหลายๆ พรรค ต้องนึกถึงเมื่อ 51 ปีที่แล้วที่ตนไปช่วยราชการนายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เหมือนกันเลยที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพล้มกันไปล้มกันมา ผลสุดท้ายบ้านเมืองไม่ไปไหน ตนก็อยากจะขอร้องทุกคนว่าการเมืองเปลี่ยนแปลงได้ แต่บ้านเมืองต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร ข้าราชการ นักธุรกิจก็ทำงานต่อไป ใครเป็นรัฐบาลก็มีหน้าที่มาเสริมทำให้ภาคเอกชนแข็งแรง


นายทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงว่า เกิดจากข่าวดาราจีนที่มาไทยแล้วถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งกลายเป้นข่าวดังไปทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย วันก่อนมีคนทิ้งระเบิดควันไปที่ข้างบ้านของเพื่อนบ้านตอนตี 3 ตี 4 ตำรวจก็ตามจนไปเจอจากรูปในเซเว่นฯ แถววงเวียนใหญ่แล้วตามจับได้หมด ดังนั้นหากมีการทำเมืองเป็นสมาร์ทซิตี้ ติดกล้องวงจรปิด จะมีความปลอดภัยสูง สามารถเรียกความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไปประเทศจีนรอบหน้าจะให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์จีนเ่วยตัวเอง ใครมาเมืองไทยโดนฆ่าโดนปล้นขอรับผิดชอบเองและตนจะจ่ายเงินให้เอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยให้ได้

นายทักษิณกล่าวอีกว่าตนเองเป็นคนชอบเสี่ยงทั้งชีวิต แต่ไม่การเล่นการพนัน ตอนสมัยที่เป็นนายกฯ ตอนนั้นโรคซาร์สกำลังระบาดคนก็พากันใส่หน้ากากอนามัย แต่โรคชนิดนี้ตนรู้ว่ามันไม่ติดต่อกันทางอากาศ จึงบอกกับรัฐมนตรีพากันไปสนามโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย จนคนเชื่อมั่น หรือตอนไข้หวัดนก ตนเองก็ไปกินไก่โชว์ เพราะรู้ว่าไก่ถ้าทำให้สุกเกิน 80 องศาไม่มีเชื้อโรค ก็ไปทำครัวกลางสนามหลวงและไปโชว์กินไก่แล้วไก่ก็ขายได้ราคาดี ดังนั้นถ้าให้มาเสี่ยงเพื่อบ้านเมืองตนไม่เคยกลัว

ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ที่มีคนบอกว่าสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีกาสิโน ตนก็อยากถามว่าใครจะมาลงทุน ชิโนไทย(ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของตระกูลชาญวีรกูล) มาลงทุนไหม ซึ่งเอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์มีสิทธิ์ที่จะเป็นศูนย์รวมท่องเที่ยวหลายอย่าง เช่น อาจจะมีที่เล่นสกี ไม่ต้องไปเล่นที่ต่างประเทศ ส่วนกาสิโนไม่ใช่ใครจะเดินเข้าไปได้ง่าย หากใครไม่มีรายได้มากมายก็เข้าไม่ได้ ไม่ใช่จะมาบอกว่าทำแล้วจะมามอมเมา มันยังไม่ได้รู้เรื่องเลย แล้วจะมาบอกว่ามอมเมาได้ยังไง สิ่งเหล่านี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไป

“พวกที่ว่ามอมเมา ยังไม่รู้อะไรเลย พวกที่รู้น้อยพูดมาก น่ารำคาญ” นายทักษิณ กล่าว

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนรัฐบาล นายทักษิณกล่าวว่า การเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายก ไม่มีหรอก เราต้องทำงานต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ก็แถมตนเข้าไปด้วย

"ผมขอเป็นเสมียนประเทศ รวบรวมทุกอย่างส่งให้นายกฯ ให้รัฐมนตรี ไปดูหน่อยสิ ไปทำต่อทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผมอยากเห็น” นายทักษิณกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น