xs
xsm
sm
md
lg

“พิเชษฐ์” ลุ้น 1 ส.ค.ศาล รธน.นัดชี้ชะตาปมแปรงบ 69 ลงพื้นที่ตัวเอง แต่ตีตกแปรงบ 68-หยุดทำหน้าที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิเชษฐ์” รอง ปธ.สภา ระทึก ศาล รธน. นัดชี้ชะตา 1 ส.ค. ปมแปรงบ 69 ลงพื้นที่ตัวเอง สั่งไต่สวนพยาน 24 ก.ค. แต่ยกคำร้องแปรงบ 68-คำขอหยุดปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (17 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน และ สส.รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย กว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ผู้ถูกร้องเป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการ เสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนโดยทางตรง หรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และกรณีสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569

เป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง

โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้รับการพิจารณาเสร็จสิ้น และเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแล้ว ไม่อยู่ในขั้นตอนของการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายในกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7(7) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย

ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 มีคำสั่งรับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมทั้งส่งสำเนาคำร้องให้นายพิเชษฐ์ผู้ถูกร้อง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับความเห็นของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายในวันจันทร์ที่ 21ก.ค. นี้ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้คู่กรณีมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ณ ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในเวลาที่กำหนดแทนการส่งเอกสารให้แก่บุคคลนั้น ทั้งนี้ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 ประกอบข้อกำหนด ศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 23

ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า การกระทำฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง คือ การเสนอ การแปรญัตติ การกระทำ ด้วยประการใดๆ ที่มีส่วนโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีดังกล่าว เมื่อข้อเท็จจริง ตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบยังไม่ปรากฏว่านายพิเชษฐ์ ผู้ถูกร้องมีการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว เป็นที่ยุติชัดเจน เป็นเพียงการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวกับกิจการของสภาผู้แทนราษฎรตามหน้าที่ของผู้ถูกร้องที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมอบหมาย เท่านั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง จึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

สำหรับคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัย กำหนดให้ นายพิเชษฐ์ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อยู่ในระหว่างการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญให้ยกคำขอส่วนนี้

ส่วนคำขอให้ศาลกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องระงับการใช้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายของโครงการ ทั้ง 3 โครงการ ตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับการจัดสรร เห็นว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2568 จึงให้ยกค้าขอส่วนนี้ และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กำหนดนัด ไต่สวนพยานบุคคลในวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ค. เวลา 10.00 น.หากผู้ร้องหรือผู้ถูกร้อง ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันอังคารที่ 29 ก.ค. 68 และศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. 68 เวลา 09.30 น.และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00น.เป็นต้นไป


กำลังโหลดความคิดเห็น