xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ-อิ๊งค์”ทุกคดีบีบรัด มองไม่เห็นทางรอด !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ทักษิณ ชินวัตร - แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

สำหรับ “สองพ่อลูก” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กำลังเจอมรสุมรุมเร้าทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกฎหมายที่เสี่ยงคุกตะราง และความเสียหายทางด้าน “เครดิต” ความเชื่อมั่นศรัทธา ที่ร่วงหล่นแทบจะจมดินอยู่แล้วในเวลานี้ ชนิดที่เรียกว่า พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนก็แล้วกัน

เพราะหากเทียบกับยุคก่อนที่โดนรัฐประหาร แม้จะสูญเสียอำนาจทางการเมือง แต่ในช่วงเวลานั้น ความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชนยังมีอยู่เหลือเฟือ เพราะสิ่งที่พิสูจน์ได้ก็คือ หากมีการเลือกตั้งครั้งใด พรรคการเมืองของเขาก็ต้องชนะทุกที แม้แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 แม้จะแพ้ แต่ก็ยังถือว่ายังมีความนิยมชมชื่นจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อน และหลังการเลือกตั้งใหม่ๆ

อย่างไรก็ดี อาจเป็นเพราะประเมินบางอย่างผิดพลาด หรือ “คาดไม่ถึง” ก็สุดจะเหลือเดา เพราะหลังจากที่ผลักดดันลูกสาวคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกอย่างก็เริ่ม “ดิ่งลง” เรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงสองสามเดือนหลังนี้ถือว่า “ดิ่งรูด” แบบ “ดิ่งนรก” เลยก็ว่าได้ จนทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพเลวร้ายในเวลานี้ นั่นคือ มีสภาพแบบโดดเดี่ยว จนแทบไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปช่วย ความหมายก็คือ บรรดาผู้สนับสนุนที่เป็นมวลชนต่าง “แบกกันจนหลังหัก” กันไปตามๆกัน

สิ่งที่วิเคราะห์ถึงสภาพที่ต้องเป็นอยู่แบบนี้น่าจะมาจากสาเหตุคือ “ความศรัทธา” ที่หดหายเร็วมาก ส่วนสำคัญน่าจะมาจาก “ความรู้ ความสามารถ” ของนายกรัฐมนตรี ที่ถูก “จับได้” เหมือนกับว่า “ยิ่งพูด” ก็ยิ่งประจานตัวเองออกมาให้เห็น อีกทั้งครอบครัวการเมืองของพวกเขา สร้างเครดิตจากการ “สร้างภาพ” มาตลอด ดังนั้น เมื่อถูกจับได้ไล่ทัน มันก็เลยพังครืนลงทันที

แต่ที่น่าสังเกต ที่ทำให้ “สองพ่อลูก” จากครอบครัวนี้สูญเสียเครดิตแบบป่นปี้ในชั่วข้ามคืน ก็คือกรณี “คลิปลับ” การสนทนา ที่ถูกนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นำออกมาเปิดโปง เพราะนอกจากสร้างความเสียหายด้านความน่าเชื่อถือที่ป่นปี้แล้ว ยังส่งผลกระทบทางด้านกฎหมาย ถูกร้องเรียนเรื่อง “ปมจริยธรรม” ซึ่งจะมีผลทางการเมือง และทางคดีอาญา ตามมา นั่นคือ มีความเสี่ยงที่จะถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเสี่ยงคุก สารพัด

สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวนในเรื่องการบังคับจำคุกตามคำพิพากษา จากกรณีชั้น 14 โดยที่ผ่านมา มีการไต่สวนพยานจากผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กรกรกฎาคม ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำ ที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยก่อนหน้านี้ ศาลได้นัดไต่สวน นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กลุ่มแพทย์ประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ปาก และกลุ่มพัศดีเวรประจำวัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

เมื่อวานนี้ (15ก.ค.) ศาลฎีกาได้ไต่สวนพยานทั้งหมด 6 ปาก แบ่งเป็นช่วงเช้าไต่สวนพยานเสร็จสิ้น จำนวน 4 ปาก ประกอบด้วย

1.นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ 2.นายนัสที ทองปลาด อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 3.นายสิทธิ สุทธีวงศ์ อดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 4.นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอีก 2 ปาก ไต่สวนในช่วงบ่ายเป็น 5.นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ และ 6. นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้บริหารโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ทั้งนี้ช่วงเช้าศาลฎีกาได้ไต่สวนผู้บริหารกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับเรื่อง การรับตัวนายทักษิณเข้ามาที่เรือนจำการตรวจร่างกายของพยาบาลเรือนจำ การส่งตัวนายทักษิณไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ อาการป่วยของนายทักษิณ โดยมีความเห็นของแพทย์ที่จะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเร่งด่วนและมีการขยายเวลาการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงเวลา 30 วันและช่วงเวลา 60 วันโดยพยานระบุว่ามีการเซ็นคำสั่งไปตามความเห็นของแพทย์ โดยในการพิจารณาดังกล่าว เป็นไปตามกฎกระทรวง และพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (พ.ร.บ.) พ.ศ.2563 รวมถึงการขอพระราชทานอภัยโทษ และเรื่องการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เกี่ยวกับความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยมีนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. และ นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวนด้วย

สำหรับน.ส.แพทองธาร นั้น เวลานี้กำลังถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว จากกรณีถูกร้องเรื่องทำผิดจริยธรรมร้ายแรง จากคลิปเสียงดังกล่าว และทำให้หลายคนคาดการณ์กันว่า “รอดยาก” แต่ล่าสุด เธอก็ได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาส่งเอกสารคำชี้แจงออกไปอีก 15 วัน
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียื่นขยายเวลา ชี้แจงคดีจริยธรรมต่อศาลรัฐธรรมนูญไปอีก 15 วัน ว่า ได้ส่งคำขอไปยังศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว เพื่อขอขยายเวลาอีก15 วัน ก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา

เมื่อถามว่า การขอขยายเวลาในครั้งนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้เหตุผลว่าอย่างไร นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า โดยปกติเรื่องนี้เป็นสิทธิ์อยู่แล้ว เพราะว่าทำคำชี้แจงต่างๆ ยังไม่ทัน

ดังนั้น หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวข้างต้นแล้ว ทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร กำลังดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองรอด เพียงแต่ว่าในสถานการณ์ที่ “ดำดิ่ง” แบบนี้ มองไปทางไหน มันไม่มีหนทางบวกให้เดินเลย ที่สำคัญทั้ง “ความศรัทธา” ที่หดหายที่เคยเป็นเกราะกำบังแทบไม่เหลือแล้ว ขณะที่ทางด้านกฎหมายที่กำลังบีบรัดเข้ามา และใกล้เข้ามา งานนี้เสี่ยงถึงคุกเสียด้วยซี !!


กำลังโหลดความคิดเห็น