วันนี้ (15 ก.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ลงพื้นที่ติดตามแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ และมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ประกอบด้วย โฉนดเพื่อการเกษตร โฉนดต้นไม้ เมล็ดพันธุ์ข้าว สารชีวภัณฑ์ ตลอดจนพันธุ์ปลาให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ทางอาหารและพัฒนาความหลากหลายทางการเกษตรในพื้นที่ โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ วัดบางแตน ตำบลบางแตน อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
โดยมุ่งเน้นไปยังแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทาน ได้ดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำจนถึงปัจจุบัน จำนวน 168 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 314.34 ล้าน ลบ.ม. อีกทั้งเตรียมศึกษา สำรวจ และพิจารณาโครงการ พร้อมวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดปราจีนบุรี (ปี 2568-2580) เพิ่มเติมจำนวน 37 โครงการ ได้แก่ 1) แผนงานระยะสั้น (พ.ศ. 2568-2569) จำนวน 21 โครงการ 2) แผนงานระยะกลาง (พ.ศ. 2570-2572) จำนวน 11 โครงการ และ 3) แผนงานระยะยาว (พ.ศ. 2573-2580) จำนวน 5 โครงการ ซึ่งหากโครงการฯ แล้วเสร็จตามแผน จะเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำได้อีก 339.40 ล้าน ลบ.ม. และมีพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นกว่า 298,416 ไร่ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในการอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตรที่มีพื้นที่กว่า 1,566,464 ไร่
นายอรรถกร กล่าวว่า แม่น้ำบางปะกง ถือเป็นแม่น้ำสายหลักในการหล่อเลี้ยงชีวิตพี่น้องประชาชน 2 จังหวัด คือ จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟู พัฒนา ตลอดจนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่อย่างเป็นระบบ จึงได้มีการศึกษาและวางแผนการจัดทำโครงการชลประทานต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ สำหรับปัญหาราคาผลผลิตที่ยังไม่เป็นที่พอใจของพี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะราคาข้าว ในขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างทบทวนแนวทางในการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงศึกษาการใช้เทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพภาคการผลิตให้มากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ นายอรรถกร ได้มอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อส่งเสริมการต่อยอดอาชีพเกษตรกร และเสริมประสิทธิภาพด้านการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง โดยมอบโฉนดเพื่อการเกษตร-โฉนดต้นไม้ รวมถึงสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จาก “โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 2568” และปัจจัยการผลิตอื่นๆ สนับสนุนสารชีวภัณฑ์ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพดินรวมถึงได้มีการมอบกรรมสิทธิ์ธนาคารโค-กระบือ ถุงยังชีพสัตว์ และพันธุ์ปลาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ได้สนับสนุนชุดบัญชีครัวเรือน และมอบรางวัลสหกรณ์ดีเด่นระดับภาคกลาง เพื่อส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือนและสร้างวินัยทางการเงินอีกด้วย
