หัวหน้า ภท. นำทีมลุยศรีสะเกษ ช่วย “จินณ์ตวรรณ” หาเสียง ประกาศชัด “เป็นขี้ข้าประชาชน ดีกว่ารับใช้คนขายชาติ” ปลุกเลือกคนของประชาชน เพื่อมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างแท้จริง
วันนี้ (14 ก.ค.) เวลา 15.00 น. ที่เทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำทีมผู้บริหาร และ สส.พรรค ขึ้นเวทีช่วย น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พร้อมกล่าวปราศรัยต่อประชาชนที่มาร่วมรับฟังอย่างคึกคัก
นายอนุทิน ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ต้องการให้ จ.ศรีสะเกษ มีตัวแทนที่แท้จริงของประชาชน และขอแรงสนับสนุนให้ เบอร์ 2 คือ จินณ์ตวรรณ ได้รับเลือกเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร นี่คือ ผู้แทนที่พร้อมอยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน และพร้อมรับใช้ สนองตอบทุกความต้อง พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับพี่น้อง อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ เราเข้าใจความทุกข์ยากของท่าน และเราพร้อมจะร่วมทุกข์ ร่วมสุข กับท่าน การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมเต็มที่ และถือเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ให้เห็นว่า พี่น้องศรีสะเกษต้องการความเปลี่ยนแปลง
“เรามาอยู่ตรงนี้ มาสมัครเป็นขี้ข้าประชาชน การเป็นขี้ข้าแบบนี้ ถือเป็นเกียรติของคนทำงาน ดีกว่าเป็นขี้ข้าคนโกง ขี้ข้าคนขายชาติ อันนั้นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นขี้ข้าชาวบ้าน ขี้ข้าคนไทย ขี้ข้าประชาชน ถือว่าเป็นวาสนาของพวกเรา”
พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวถึงเหตุผลการลาออกจากรัฐบาล โดยระบุว่า ไม่เพียงแต่ปัญหาคลิปเสียงที่กระทบต่อศักดิ์ศรีประเทศเท่านั้น แต่ยังมีเหตุจากการผิดสัญญาทางการเมือง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคการเมืองที่รักษาคำพูด ไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนั้นได้ พร้อมยืนยันว่า การออกจากรัฐบาลทำให้สามารถลงพื้นที่พบปะประชาชนได้เต็มที่ และสะท้อนเสียงของประชาชนได้ตรงไปตรงมา
จากนั้น นายอนุทิน ได้พูดถึงกฎหมายกาสิโน และพนันออนไลน์ ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย คือ พรรคที่สกัดกฎหมายนี้ เพราะเรารู้ถึงผลร้ายที่จะตามมา และเรายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้น กาสิโน การพนันออนไลน์ จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลสมัยนี้ และหากพ่อแม่พี่น้องเลือกพรรคภูมิใจไทยให้มีมากจนจัดตั้งรัฐบาลได้ เรื่องกาสิโน พนันออนไลน์ไม่มีวันเกิดขึ้นในประเทศไทย
จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึงปัญหาชายแดน ว่า ต้องเปลี่ยนคนไปเจรจาหารือ หน้าเดิมๆ คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว โดยในช่วงท้าย นายอนุทิน กล่าวว่า หากประชาชนศรีสะเกษเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้แทนในครั้งนี้ จะสะท้อนให้เห็นว่า หมดเวลาของรัฐบาลชุดนี้แล้ว และหมดเวลาของพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษแล้วเช่นกัน พร้อมกล่าวย้ำว่า
“ถึงเวลาที่ชาวศรีสะเกษจะต้องลุกขึ้นเลือกคนของประชาชน เพื่อมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างแท้จริง”