เมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม) สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งประเทศกัมพูชาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้คำพูดของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่ได้กล่าวพาดพิง สมเด็จฯ ฮุน เซน หลายครั้ง บนเวทีเนชั่น 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ไม่แปลกใจกับการหักหลังของนายทักษิณ ซึ่งมีใจความสำคัญหลายเรื่อง โดยตอนหนึ่งระบุว่า “ผมอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง หากจะพูดถึงทักษิณให้ครบทุกเรื่อง คนที่ผมเคยช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2006 จนถึง 2025”
“ในช่วงค่ำของวันที่ 15 มิถุนายน 2025 ทักษิณได้ฝากข้อความผ่านที่ปรึกษาของเขามาว่า อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องถูกปลดออก เพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถควบคุมกระทรวงมหาดไทยได้ ผมก็ตอบกลับไปในขณะนั้นว่า ถ้าเอาเขาออก ก็เตรียมตัวโดนออกด้วยเถอะ’”
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่รู้สึกแปลกใจใด ๆ กับการหักหลังของทักษิณ เพราะเขายังสามารถหักหลังประเทศของตนเองได้ การหักหลังคนต่างชาติอย่างผมจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย แต่ทักษิณไม่ควรลืมว่า เขาเคยพูดอะไรไว้กับผมบ้าง เคยขอคำปรึกษาจากผมในเรื่องใดบ้าง”
หากย้อนกลับไปวันที่ นายทักษิณ เดินทาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย โดยกล่าวถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ว่าจะยังสามารถเป็นพี่น้องกับสมเด็จฮุนเซนได้หรือไม่ ว่า “เคยเป็น แม้ทำลูกผมขนาดนี้“ โดยนายทักษิณ ยอมรับว่า ตนถึงกับช็อกกับความรู้สึกเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมาโจมตีกันทีหลัง ตนก็มองว่าก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อความสัมพันธ์มันจบก็จบไป ซึ่งตนพยายามสงสัยว่า ”มันเกิดอะไรขึ้น“ คงไปเหยียบตาปลาอะไรเข้าสักอย่าง
นายทักษิณ เล่าต่อว่า ในวันที่เขาถอนกำลัง และต่อมามีการรายงานว่ามีการเคลื่อนกำลังของกัมพูชากว่าหมื่นนายไปที่ชายแดน ตนโกรธมาก และโทรไปหาฮวดว่า “ฮวด บอกเจ้านายสิ ไม่อยากพูดเอง พูดไปเดี๋ยวเกิดอารมณ์คุมไม่อยู่ ไปบอกเลยนะ ตกลงลูกเราเป็นผู้นำทั้ง 2 ประเทศ เราจะทำสงครามกันใช่ไหม“
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยให้สัมภาษณ์โดยชี้ว่า ฮุนเซนมองว่าตัวเองเหนือกว่าทักษิณ โดยเชื่อว่าการปฏิสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจอย่างสมบูรณ์ เขารู้สึกว่าเขาได้ช่วยเหลือทักษิณอย่างมาก แม้กระทั่งช่วยน้องสาวของนายทักษิณให้หลบหนีและให้ที่พักพิงแก่ผู้สนับสนุนเสื้อแดง สิ่งนี้ทำให้ฮุนเซนเชื่อว่าทักษิณเป็นหนี้บุญคุณเขา
นายสุรนันทน์ยังกล่าวด้วยว่า ความไม่ลงรอยกันครั้งใหญ่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างพวกฮุนเซนกับนายทักษิณ พร้อมทั้งยังวิเคราะห์ด้วยว่าไม่น่าจะมาจากสาเหตุการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอลแพล็กซ์ แต่คาดการณ์ว่าความขัดแย้งอาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ด้านพลังงานมหาศาล
อย่างไรก็นักวิเคราะห์รวมถึงสำนักข่าวต่างๆ มีการตั้งข้อสังเกตว่า คำพูดของนายทักษิณในกรณีนี้ถือเป็นการสั่งการหรือบงการการทำงานของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหรือไม่ ตั้งแต่กรณีขอคืนเก้ากระทรวงมหาดไทยมาจนถึงปัญหาชายแดน
รวมถึงอาจมองได้ว่าปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวเป็นความขัดแย้งระหว่างฮุนเซนและตระกูลชินวัตร โดยมีผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวประกัน