“สว.นพดล” เตรียมเสนอญัตติร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ - แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังกลไกรัฐจัดการไม่ท่วงที ก่อความเสียหายวันละ 100 ล้าน ขณะที่ 6 เดือนทะลุหมื่นกว่าล้าน แนะหากเอาจริงเอาจังแก้ไม่ยาก และง่ายกว่า ครม.ชุดที่แล้วเพราะรวบกระทรวงสำคัญไว้หมด ชี้หากล้มเหลวโยนบาปให้คนอื่นไม่ได้
วันที่ 12 ก.ค. นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้เสนอญัตติศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ที่จะพิจารณาในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามานานมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเป็นคนพูดในวุฒิสภาเป็นคนแรกๆ ซึ่งปัญหานี้รัฐบาลก็ดำเนินการมาตลอด และ ถึงแม้จะมีพระราชกำหนด ไซเบอร์ (พ.ร.ก.) ฉบับใหม่แก้ปัญหาบังคับใช้มาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลงเท่าที่ควร หรือยังไม่ลดลงแบบมีนัยยะสำคัญ
จึงคิดว่าวุฒิสภาควรเข้ามามีส่วนในการเข้ามาศึกษาและเสนอแนะ เพราะวันหนึ่งเราเสียเงินกับเรื่องนี้ร่วม 100 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าเยอะมาก ปีหนึ่งตก 2-3 หมื่นล้านบาท เราสามารถอำนวยประโยชน์ได้อย่างมากมาย สว.เราได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงเสนอญัตติขึ้น
นายนพดล กล่าวย้ำว่า หากเราเอาจริงเอาจังบังคับใช้กฎหมาย มันก็ไม่ยาก เพราะผู้ประกอบการตามแนวชายแดนก็เป็นคนไทยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนบ้านใช้สัญญาณต่างๆของประเทศไทยแล้วกลับมาทำร้ายประเทศไทยเอง
เมื่อถามว่ามองว่าในช่วงที่รัฐบาลสั่นคลอนแบบนี้ จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเสถียรภาพมากนัก เพราะปัจจุบันนี้ จะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสำคัญ กระทรวงหลักก็ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำ ซึ่งก็เป็นพรรคเดียวกัน ตนมองว่าจะแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าครั้งที่แล้วด้วยซ้ำไป เพราะตอนนั้นเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค
“งานนี้ถ้ารัฐบาลสามารถแก้ไขได้ดี ก็จะเป็นผลงานของรัฐบาล ในทางกลับกัน ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเป็นผลเสีย จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะอำนาจในการสั่งการเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลโดยตรง” สว. นพดล กล่าว
สำหรับสาระสำคัญของญัตติดังกล่าว ระบุว่า ด้วยในปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ของประชาชนอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมในวงกว้าง โดยที่กลไกของรัฐไม่สามารถ จัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายกับปัญหาการพนันออนไลน์และยาเสพติด ทำให้จำนวนคดีอาชญากรรม สูงขึ้นมาก ส่งผลเสียต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวคนไทยสูงมาก
ซึ่งเวบไซต์กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า ความเสียหายของอาชญากรรมทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม - 18 มิถุนายน 68 มีมูลค่าถึง 12,779,626,726 บาท โดยเจ้าหน้าที่สามารถอายัดบัญชีได้ทันเพียงร้อยละ 2 หรือเพียง 295,764,203 บาท
ทั้งนี้ จากปัญหาภัยสังคมทั้งหมดข้างต้นที่เป็นเรื่องภัยคุกคามที่เร่งด่วนและกระทบอย่างรุนแรง ต่อสังคมไทย จนเกินกว่าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับมือป้องกันได้อย่างทันท่วงที จึงสมควรที่วุฒิสภาจะมีข้อเสนอแนะหรือให้คำแนะนำและร่วมเร่งหาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติเสนอให้วุฒิสภาตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่มีความสำคัญ 4 ด้าน ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. ประกอบด้วย 1. กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน 2.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน 3.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ และ 4.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยมีกำหนดเวลาการพิจาณราศึกษา 90 วัน