ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “ทักษิณ” โม้เพลิน รอบนี้น่าจะมีงานเข้า กกต.
เพราะ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร กำลังเจอวิกฤตหนัก ทั้งเรื่องคลิปเสียงฮุน เซน...ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต้องไปนั่งเป็นรมว.วัฒนธรรม ...ปัญหาเสียงในสภาฯ ก็น่าเป็นห่วง เมื่อพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล...ยังมีเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ...เรื่องกฎหมายกาสิโน
เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกสาว “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นพ่อ จึงอยู่เฉยต่อไปไม่ได้ ต้องออกมาตอบโต้ มาประคองสถานการณ์ เพราะใครๆ ก็รู้อยู่ว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง “อุ๊งอิ๊งค์” นั้นคือ “ทักษิณ”
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงมีหลายเหตุการณ์สำคัญ ทั้งเรื่องถอนร่าง กม.กาสิโน... ทักษิณโชว์วิชันซอฟต์เพาเวอร์... ตอบโต้ ฮุน เซน แถมด้วยเสวนาผ่าทางตันการเมืองไทย เรียกว่าลากยาวตั้งแต่บ่าย ยันดึก
เรื่องการถอน ร่าง กฎหมายกาสิโน ออกจากวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนฯ นั้น ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือว่า เมื่อเปิดประชุมสภาฯ จะพิจารณาเรื่องนี้เลย เพราะอยู่ในวาระลำดับที่ 1 บอกว่าศึกษามาดีแล้ว รอช้าไม่ได้ ต้องรีบทำเพื่อดึงเม็ดเงิน กระตุ้นท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
มีการตั้งข้อสังเกตว่า โดยธรรมชาติของพรรคเพื่อไทยแล้ว ถ้าไม่มั่นใจเรื่องปัญหาเสียงปริ่มน้ำ หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัว ก็น่าจะแค่เลื่อนออกไปก่อน เมื่อบริหารจัดการเรื่องเสียงในสภา หา “งูเห่า” ได้แล้ว ค่อยหยิบยกขึ้นมาพิจารณา
แต่ที่ถอนวาระออกจากสภาฯ ไปเช่นนี้ ทำเพื่อ “ฮุนเซน” หรือเปล่า? เพื่อแลกกับการไม่ปล่อยคลิปเพิ่ม ไม่แฉ 7 ชื่อนักการเมืองไทย ที่ขนเงินไปฝากที่กัมพูชา
เพราะที่ “ฮุน เซน” ออกมาอาละวาด ทั้งเรื่องเขตแดน เรื่องปล่อยคลิปลับนั้น เกิดจากความไม่พอใจที่ “ทักษิณ” จะมาตั้งกาสิโนแข่ง เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่า กาสิโนตามชายแดนฝั่งกัมพูชานั้น เป็นแหล่งรายได้หลักของ ฮุน เซน และคนที่ไปเล่นก็เป็นคนไทย ถ้าประเทศไทยมีกาสิโน ใครจะถ่อไปเล่นที่เขมร
แม้ว่าในวันเดียวกันนี้ “ทักษิณ” จะทำขึงขังประกาศสะบั้นสัมพันธ์ 30 ปี กับ “ฮุน เซน” และขอโทษประชาชน ที่หลงไปคบกับคนแบบนี้... นั่นมันน่าจะเป็นแค่ละครน้ำเน่าฉากหนึ่งหรือเปล่า ?
ตกบ่าย “ทักษิณ” ไปโชว์วิชั่น “ซอฟต์เพาเวอร์” ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อีเวนต์นี้เหมือนเป็นงานฉลองตำแหน่ง “รมว.วัฒนธรรม” ของลูกสาว
เรื่องที่ทักษิณพูดนั้น คนฟังแล้วบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีอะไรใหม่ เป็นการเล่าเรื่องของตัวเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ทำเรื่องสินค้าโอทอป หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ อะไรทำนองนั้นเสียมากกว่า ยังคิดจะให้ชาวบ้านทำผ้าพันคอขาย แข่งกับแอร์เมส ซึ่งมันไม่เข้ากับยุคนี้ สมัยนี้แล้ว
จะมีสีสันให้คนฟังแก้เบื่ออยู่บ้าง ก็ตรงที่พูดไปแขวะพรรคการเมืองที่ถอนตัวออกไป เช่นว่า ที่ผ่านมาไม่มีการเอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็ไม่ร่วมมือ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ไม่ให้ความร่วมมือ แต่หลังจากนี้กระทรวงมหาดไทยต้องร่วมมือเต็มที่แล้ว
หรือพูดถึงเรื่องทำหนัง ก็ว่าคนไทยเขียนนิยายเก่ง โดยเฉพาะการเมือง นิยายน้ำเน่าเยอะ อะไรประมาณนี้
ไฮไลต์ของ “ทักษิณ” นั้นอยู่ในช่วงค่ำ ที่ไปเป็นแขกรับเชิญร่วมเสวนา “เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก ผ่าทางตันประเทศไทย” ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กับการให้สัมภาษณ์ หลังจากนั้น
เปิดฉากมา “ทักษิณ” ก็เรียกน้ำย่อย บอกว่าเมืองไทยเรานี้ คนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีก็เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอก ก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯภายในเดือนกรกฎาคม นี้ คนที่อยากเป็นนายกฯ นี่เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่น...
ไม่ต้องบอกว่าเป็นลูกชายใคร ก็คงจะพอคาดเดากันได้
หลังจากนั้น พิธีกร ก็ทั้งชง ทั้งหยอด แบบไม่มีคำถามวงแตก “ทักษิณ” ก็โม้เพลิน
อย่างเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ “ทักษิณ”บอกว่า ก็แก้ด้วยคณิตศาสตร์การเมือง เพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง “หนูป่าวนา เขามาเอง” แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว เราทำตัวเป็น “เบิร์ด” เพราะรักทุกๆ คน
ถามเรื่องฮั้วเลือกสว. “ทักษิณ” บอกว่า อย่าใช้คำว่า “ฮั้ว” มันดูพูดเพราะไป ต้องใช้คำว่า “โกงเลือกตั้ง” เรื่องนี้จริยธรรม มันไม่มีแล้ว
เรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องภาษีทรัมป์ ... ผมต้องทำงานให้บ้านเมือง จะให้ผมทำยังไง ภาวะเศรษฐกิจวันนี้ ขอโทษนะ ถ้าผมมไม่เสือก แล้วใครจะเสือก ผมอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะอดีตนายกฯและลูกผมเป็นนายกฯ มีอะไรมันก็ต้องช่วยกัน ขนาดผมออกนอก (ประเทศ) ไม่ได้ ถ้าออกนอกสนุกกว่านี้ ผมสามารถไปเจรจา ไปพูด ไปคุยได้...
เรื่องกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องยึดคืนมา จนทำให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากรัฐบาล “ทักษิณ” ตอบแบบไม่กั๊ก ว่า พรรคการเมืองนั้น สู้กันที่นโยบาย เมื่อแถลงไปแล้วก็ต้องพยายามผลักดัน แต่มันไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งยาเสพติด การแก้ปัญหาความยากจน เรื่องหนี้ เรื่องโอทอป มันต้องอาศัยกลไกของมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่ง เรื่องสร้างบ้านให้คนไทย ที่ต้องทำสัญญา 99 ปี ก็ต้องไปผ่านมหาดไทย พรรคเพื่อไทยบอกว่า ขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง
...เราชวนเขา แต่เขาไม่เอา เขาจะเอากระทรวงคมนาคม ผมไม่ให้ เพราะรู้อดีตคุณเนวิน คุณอนุทินไม่เคยมาคุยกับผม หลังออกจากพรรคร่วม เขาไม่คุยกับผมเอง น่าจะเป็นฝ่ายแค้น มากกว่าฝ่ายค้าน ...
ถามว่ามีโอกาสไหม ที่พรรคเพื่อไทย จะร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย อีกรอบ “ทักษิณ” บอกว่า การเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองออกแบบแบบนี้ ไม่สามารถที่จะบอกว่า จะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้น ก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป ก็ว่ากันไป...
ส่วนเรื่องอนาคตของรัฐบาล จะเป็นอย่างไร ในเมื่อ “แพทองธาร” ติดบ่วงจริยธรรม อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญในตอนนี้ “ทักษิณ”บอกว่า ถ้านายกฯแพทองธาร รอด ก็กลับไปทำงานเต็มที่ และทำยาว...แต่ถ้าไม่รอด ก็มี 2 ทางเลือก คือ เสนอชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นนายกฯ หรือยุบสภา และตอนนี้ “ชัยเกษม” ก็ยังฟิตอยู่ ตีกอล์ฟสบายมาก...
เรียกว่าถามอะไรมา “ทักษิณ” ตอบได้ บอกแนวทางแก้ปัญหาได้ เรียกว่า “โม้เพลิน” เหมือนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นนายกฯ ตัวจริง
ซึ่งบางเรื่อง บางจังหวะ ที่พูดไปนั้นน่าจะเข้าข่ายครอบงำพรรคการเมืองเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงพูดถึงการแลกเปลี่ยนเอากระทรวงมหาดไทยคืนมา คนที่ตัดสินใจ คือ “ทักษิณ”
แต่อย่างว่า คนไทย และคนแทบทั้งโลก รู้ว่า “ทักษิณ” คือเจ้าของพรรคเพื่อไทย และเป็นนายกฯ ตัวจริง “แพทองธาร”นั้น เป็นแค่หัวหน้าพรรคและนายกฯ ในนาม
มีแต่ กกต.เท่านั้นที่ไม่รู้ !!
ที่ผ่านมามีบรรดานักร้อง ไปยื่นเรื่องร้องเรียนเรื่อง “ทักษิณ” ทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง มีพฤติกรรมครอบงำพรรค หลายกรรม หลายวาระ แต่ถูกตีตก ยกคำร้องหมด ก่อนถึงมือ กกต.
ว่ากันว่า คนที่มีอำนาจกลั่นกรองในชั้นสืบสวน สอบสวน ก่อนเสนอที่ประชุมใหญ่นั้น เป็นคนในสาย “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” จึงตีตกไป เพราะตอนนั้น ภูมิใจไทย กับ เพื่อไทย ยังสมประโยชน์กันอยู่
แต่ตอนนี้ แยกทางกันแล้ว หากมีเรื่องร้องเรียนว่า “ทักษิณครอบงำพรรค” เรื่องอาจไปถึงที่ประชุมใหญ่ กกต. ก็เป็นได้
ต้องติดตามว่า “ทักษิณ” โม้คราวนี้ จะงานเข้าพรรคเพื่อไทย งานเข้า กกต. หรือไม่ !?
++ ดรามานักท่องเที่ยวจีนหาย "เศรษฐา" ซวบ "อนุทิน" อีกดอก บอก "กัญชา" ก็ด้วย !?
ประเด็นดรามาที่ว่า "นักท่องเที่ยวจีน" หายไป เพราะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโน และผู้นำจีนเคยเตือนแล้ว...จากการออกมาสวมบท "นักแฉ" แล้วตีกินแบบ "เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่น" ด้วยพิษรักแรงแค้นพรรคเพื่อไทยของ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังมีเรื่องให้ต้องพูดถึง
งานนี้คนที่พูด ก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึง "อดีตนายกรัฐมนตรี"
“เศรษฐา ทวีสิน” ที่เคลื่อนไหวมางานซอฟต์เพาเวอร์ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“เศรษฐา” ให้สัมภาษณ์ ทิ่มหมัดตรงไปที่ “อนุทิน” คนจุดชนวนดรามานี้แบบไม่อ้อมค้อมตามสไตล์ถนัดว่า ไม่ใช่ ไม่จริง กาสิโนยังไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะเป็นห่วงเรื่องนี้ได้อย่างไร!?
พร้อมกับบอกว่า ข้อมูลที่ระบุว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะของจีนที่ลดลงไปมากนั้น ก็ต้องเอาไปเปรียบเทียบกลับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งยังยืนยันว่าใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงไฮซีซั่น ยอมรับว่าก็ตกลงไปพอสมควร
เรียกว่า ยิงหมัดตรงยังไม่พอ ยังมีหมัดฮุคตามมา เหมือนจะรู้ว่า "ฝ่ายแค้น" ไม่ได้ศึกษาเรื่องตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน หรือพูดง่ายๆว่า "มั่ว" สถานการณ์เอา
งานนี้ “อนุทิน” ก็ต้องไม่ลืมว่า “เศรษฐา” สมัยเป็นนายกฯ หรือบริหารธุรกิจอสังหาฯนั้น เป็นคนประเภทลงไปคลุกวงใน ให้ความสำคัญกับตัวเลข และข้อมูลแค่ไหน
ว่าแล้ว “เศรษฐา”ก็สรุปว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นใจและความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเข้มเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น และเมื่อสามวันก่อน “ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้ลงพื้นที่สุขุมวิทโมเดล ระหว่าง ซอย 3-ซอย21 เพื่อจัดระเบียบแผงลอยสินค้าที่ไม่ถูกต้อง เห็นได้ว่า มีทั้ง "เซ็กส์ทอย" และ"ยาเสพติด" รวมทั้ง "กัญชา"
เรื่องเหล่านี้หากจัดระเบียบปราบปราม คุมกันดีๆ เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน และหากมีแผนการกระจายจัดระเบียบ ดูแลแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่นที่ เชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต
มีหรือนักท่องเที่ยวจะไม่มา !?
คำถามมีว่า "อนุทิน" สมัยที่เป็นรองนายกฯ และ มท.1 เคยจะคิด เคยจะทำบ้างมั้ย !?