“เทพไท” สับ “ทักษิณ” หลงยุค-ขายฝัน วนเวียนอยู่กับแนวทางยุคพรรคไทยรักไทยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน วิสัยทัศน์ไม่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ซัดแค่แก้ตัว-ข่มขู่ยุบสภา
วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นกรณีการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บนเวทีสาธารณะ 2 เวที เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าสาระสำคัญที่นายทักษิณนำเสนอสะท้อนถึงการยึดติดอดีตไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยและโลกในปัจจุบัน เป็นการหลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน และแก้ตัวมากกว่าจะนำเสนอวิสัยทัศน์ที่สร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชน
นายเทพไท กล่าวว่า แนวคิดของนายทักษิณยังคงวนเวียนอยู่กับแนวทางในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ทั้งแนวคิด “คิดใหม่ ทำใหม่ ตามองดาว เท้าติดดิน” หรือโครงการโอทอป ซึ่งแม้จะเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จในอดีต แต่กลับไม่สามารถปรับให้ทันต่อบริบทในยุคดิจิทัลและโลกโซเชียลมีเดีย ที่ปัญหาและโครงสร้างสังคมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“นายทักษิณยังจมอยู่กับความสำเร็จในอดีต และพยายามนำมาขายซ้ำ โดยลืมไปว่าประเทศไทยวันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว” นายเทพไท กล่าว
อดีต สส.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวว่า นายทักษิณ พยายามขายฝันผ่านคำอธิบายเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง เช่น การแก้ปัญหาค่าเงินบาท เศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า โดยอ้างว่า “ใจเย็นๆ มีทางออก” ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่มีรายละเอียดหรือแผนรองรับที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังโยนภาระไปยังพรรคร่วมรัฐบาล โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คุมกระทรวงเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเต็มที่
อีกทั้งการพูดถึงกรณีคลิปเสียงของผู้นำต่างชาติ หรือประเด็นการตั้งกระทรวงในรัฐบาล เป็นการแก้ตัวมากกว่าชี้แจง พร้อมกล่าวหาว่าเป็นการพูดเพื่อดิสเครดิตพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคภูมิใจไทย และยังกล่าวพาดพิงถึงวุฒิสมาชิกบางกลุ่ม รวมถึงมีการพูดถึงกรณีที่มีลูกนักการเมืองคนหนึ่งประกาศว่าพ่อจะเป็นนายกฯ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสร้างข้อกังขาต่อเจตนาและเป้าหมายของนายทักษิณ
นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังพยายามโยงถึงทางออกทางการเมืองด้วยการเสนอชื่อคนใหม่ เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ หากนางสาวแพทองธาร ไปต่อไม่ได้ รวมถึงการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการข่มขู่ทางการเมือง และสะท้อนถึงความไม่มั่นคงในเส้นทางของรัฐบาลชุดนี้เอง
“สุดท้ายสิ่งที่คุณทักษิณพูด สรุปได้ว่า หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน และแก้ตัว ทั้งสิ้น” นายเทพไท กล่าว
