“ไอติม” ซัดรัฐบาลไม่จริงใจ อ้างเหตุถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะองค์ประกอบ ครม.เปลี่ยน ถ้าอย่างนั้นอีกร่าง กม.อีก 7 ฉบับต้องถอนด้วยหรือไม่ ส่วนข้ออ้างเพื่อรับฟังความเห็นเพิ่มก็ดูตลก เพราะรัฐบาลเคยบอกว่าฟังความเห็นมาพอแล้ว เชื่อสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะเสียงไม่พอมากกว่า
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน อภิปรายแสดงความเห็นต่อญัตติที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า ตนเองและพรรคประชาชนไม่เห็นชอบกับการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภา เพราะไม่มีรายงานผลการศึกษาที่ละเอียดรอบคอบเพียงพอ ส่วนประเด็นผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน ตนเองไม่ได้บอกว่าเราต้องซ้ายหันขวาหันตามประเทศอื่น แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยยอมรับว่า ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงเรื่องนี้
สำหรับจำนวนผู้เล่นคนไทยที่รัฐบาลคาดว่าจะมีเข้าไปเล่นกาสิโน นายพริษฐ์ชี้ว่า คำตอบของรัฐบาลแต่ละครั้งไม่เคยเหมือนกัน รายงานที่รัฐบาลอ้าง อยู่บนสมมติฐานและการคำนวณว่าจะมีคนไทยเข้าไปเล่นในกาสิโนสูงถึง 21 ล้านครั้งต่อปี แต่พอวันถัดมา รัฐมนตรีกลับแสดงข้อมูลคาดการณ์ว่า จะมีคนไทยเข้าไปเล่น 7.4 แสนครั้งต่อปี ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจการคลังคำนวณว่า ในเมื่อคนไทยที่เข้าไปเล่นได้ ต้องมีเงินในบัญชีเกิน 50 ล้านบาทต่อเนื่อง 6 เดือน ผลจึงออกมาว่ามีคนไทยเข้าไปเล่น 5 หมื่นครั้งต่อปี จะเห็นว่าตัวเลขแต่ละครั้งแตกต่างกันมาก
สำหรับมาตรการป้องกันปัญหาติดการพนัน และป้องกันการฟอกเงิน แต่หลายมาตรการนั้นไม่ระบุในตัวกฎหมาย แต่บอกว่าให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบาย แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เมื่อถึงวันที่มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายขึ้นมา ซึ่งท่านอาจไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว มาตรการดังกล่าวจะได้รับการดำเนินการ
“ผมเข้าใจดีว่า รัฐบาลสามารถดำเนินบางนโยบายได้โดยไม่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน แต่รัฐบาลกลับเร่งรีบนำกฎหมายนี้แซงคิวกฎหมายอื่นหมดเลย แล้วจะให้เราไว้วางใจได้อย่างไร” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ มองว่า การเสนอถอนร่างครั้งนี้ ไม่ใช่การถอนบนพื้นฐานของความจริงใจ ที่อ้างว่า ครม.องค์ประกอบเปลี่ยนไป จึงต้องถอนออก ซึ่งฟังแล้วก็งง เพราะกฎหมายอีก 7 ฉบับ ที่ ครม.เสนอเข้ามาจะถอนด้วยหรือไม่ ส่วนเหตุผลว่า ต้องการเวลารับฟังความเห็นของประชาชนเพิ่มขึ้น ฟังแล้วก็ยิ่งตลก เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีเคยตอบว่า ฟังความเห็นมาพอแล้ว ซึ่งขอเสนอว่า แม้เสียงไม่พอก็ไม่ต้องชี้นิ้วมาที่ฝ่ายค้าน เพียงรับปากว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่เสนอกฎหมายที่มีปัญหาดังกล่าวกลับมาอีก ฝ่ายค้านพรัอมสนับสนุน
“ถ้าท่านยังไม่พร้อมจะให้คำยืนยันกับพวกเราว่า ท่านถอนไปแล้ว ท่านจะไม่นำร่างดังกล่าวที่มีปัญหากลับมาเสนอในสภาฯ ชุดนี้อีก ก็ชัดเจนว่าท่านไม่พร้อมจะพิสูจน์ความจริงใจของท่าน และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จำเป็นต้องมาพิสูจน์ว่าข้อสันนิษฐานของผม ว่าเสียงของท่านไม่เพียงพอ เป็นความจริงหรือไม่” นายพริษฐ์ กล่าว