xs
xsm
sm
md
lg

“อิ๊งค์” ประชุม สส.พท.รับดอกไม้ให้กำลังใจ ปัด ข้อหารัฐบาลง่อย จี้รักษาองค์ประชุม เชื่อราบรื่นถอน พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ร่วมประชุม สส.พท. ขอมั่นใจ เดินหน้าทำงานเข้มข้น เชื่อ ครม.อิ๊งค์ 1/2 ทำงานเป็นรูปธรรม-รวดเร็วมากขึ้นหลังถูกวิจารณ์ รบ.เป็นง่อย กำชับ สส.รักษาองค์ประชุม หวังเดินหน้าฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ เชื่อ ถอน พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์ พรุ่งนี้ ราบรื่น สส.หอบดอกไม้ให้กำลังใจ หวังกลับมาทำงานเรียกความชอบธรรม

วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมประชุมกับ สส.ประจำสัปดาห์ เจตนาให้ความมั่นใจกับ สส.ในฐานะสมาชิกพรรคว่า เรายังเดินหน้าทำงานอย่างเข้มข้นต่อ และนายกฯยังมีกำลังใจที่ดีให้ความมั่นใจกับสมาชิกในพรรค ว่า เจตนาการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และต่อสู้อย่างเต็มที่ เพื่อคืนความชอบธรรมกลับมาให้เราสามารถดำเนินการ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ในระหว่างนี้ไม่ต้องมีความกังวล เพราะเรามี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในการดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยให้คำมั่นกับเพื่อน สส.ว่า เวลานี้เป็นเวลาของการส่งมอบนโยบายของพรรคให้ถึงมือพี่น้องประชาชน ด้วยความที่เราสามารถตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่แล้ว และเป็นจังหวะที่ดีใช้กลไกลบริหารทั้งหมดเพื่อผลักดันนโยบายที่เคยติดขัดอยู่ของพรรคเพื่อไทยให้ถึงมือประชาชนให้ได้ และในการนี้เพื่อนสมาชิกของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดได้มีโอกาสมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับนายกฯด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อมั่น และมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ และสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ มีการชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีการตั้ง ครม. ชุดปัจจุบัน และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าสภาพพรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่นี้ทำให้เราไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ หรืออาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักไปจนถึงว่ารัฐบาลเป็นง่อยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ตนขอชี้แจงว่า การตั้ง ครม.ชุดนี้ตั้งแต่ตั้งมา 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การดำเนินการในฝ่ายบริหารเป็นไปอย่างชัดเจน การตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมามีการขับเคลื่อนงาน 2 ฝั่ง คือ ฝั่งบริหารและฝั่งนิติบัญญัติ ในส่วนของฝั่งบริหารตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ รัฐมนตรีขึ้นมาใหม่ การดำเนินการของฝั่งบริหารเป็นรูปธรรม มีการทำงานรวดเร็วมากขึ้นไม่มีการกีดกัน หรือขวาง ไม่มีการสร้างอุปสรรคระหว่างกันใน ครม. ซึ่ง ครม.ชุดใหม่สามารถทำงานได้เป็นรูปธรรมเต็มที่ สังเกตได้จากการแถลงข่าวหรือผลงานที่เห็นเป็นรูปประจักษ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่มีครม.ชุดใหม่เราสามารถดำเนินการจัดการกับปัญหากัญชาปราบบ่อนการพนัน การจัดการกับปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้น วันนี้เองได้มีการขับเคลื่อนต่อเนื่องเรื่องการจัดการอาชญากรรมข้ามชาติทางไซเบอร์ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้การตั้ง ครม. ชุดใหม่ และเราคาดหวังว่า ภายในระยะเวลาสั้น 1-2 เดือนนี้เราจะเห็นการดำเนินการสิ่งเหล่านี้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และส่งนโยบายดีๆตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้กับประชาชน

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า เรื่อง 20 บาทตลอดสาย การขับเคลื่อนมีมติ ครม.ให้สามารถดำเนินการได้ในวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป นั่นหมายความว่า เป็นอีกหนึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เราบอกประชาชนไว้ได้ขับเคลื่อนหลังครม.ชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่

นายชนินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ที่ประชุมยังมีการหารือถึงปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ เนื่องจากเสียงในสภาปริ่มน้ำ หรือเกินครึ่งมาจำนวนไม่มาก ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการกำชับกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ผ่านกลไกของวิปรัฐบาลตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาและในวันพุธนี้ (9 ก.ค.) จะดำเนินการเพื่อรักษาองค์ประชุมอย่างเข้มข้น เพราะการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล นอกจากกลไกของความบริหารแล้ว ฝั่งนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร ก็ถือมีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งก็เชื่อมั่นว่าในวันพุธนี้จะสามารถรวบรวมเสียงของทุกพรรคการเมืองในฝั่งรัฐบาลเพื่อเป็นองค์ประชุมและสามารถดำเนินการนโยบายในฝั่งบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติควบคู่กันลุล่วงไปได้


นายชนินท์ ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาในหลายเรื่องที่มีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับประชาชน โดยจะมีการยื่นถอนวาระเพื่อพิจารณาพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยข้อบังคับการประชุม วาระใดที่จะถอนจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีมติของรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ (7 ก.ค.) โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้มีการพิจารณาการให้ถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากการที่มีการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มีรัฐมนตรี 10 กว่าคน ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ จึงคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ได้พิจารณาและหาข้อสรุปในคณะรัฐมนตรีอีกครั้งว่าจะนำกลับเข้ามาบรรจุวาระใหม่หรือไม่ หรือจะนำกลับมาเมื่อใด ดังนั้นการถอนในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการถอนอย่างมีกรอบระยะเวลา แต่ถอนเรื่องนี้ออกไปก่อน เพื่อให้ทางคณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง และจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นแนวทางของคณะรัฐมนตรีที่จะเสนอกลับเข้ามายังสภาอีกครั้ง ซึ่งแนวทางของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ได้นำเสนอให้กับประชาชนก่อนหน้านี้เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลถอนกฎหมายออกไปก่อน ดังนั้นในฝั่งของพรรคเพื่อไทยรวมถึงรัฐบาลค่อนข้างมั่นใจว่าการดำเนินการถอนเรื่องนี้ จะไม่มีปัญหาในสภาผู้แทนราษฎร และจะดำเนินการได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ ยังจะมีการพิจารณา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่เคยเสนอในนามพรรคเพื่อไทยและเข้าสู่การพิจารณาในสภาวาระ 1 วาระ 2 วาระ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ฉันทำมติร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎร แต่ถูกปรับแก้ในวุฒิสภา และเมื่อส่งกลับมาจากวุฒิสภามาอย่างสภาผู้แทนราษฎรก็มีความเห็นแย้ง ทำให้สภาไม่สามารถหาข้อยุติได้ คงไว้ซึ่งการล็อก 2 ชั้น ทำให้สภาค้างร่างนั้นไว้เป็นระยะเวลา 180 วัน ตามข้อบังคับ และขณะนี้ครบกรอบระยะเวลาแล้ว จึงมีการเสนอญัตติเพื่อนำเรื่องนี้กลับขึ้นมาพิจารณาและยืนยันอีกครั้ง ซึ่งในวันที่ 9 ก.ค. ทางพรรคเพื่อไทยจะได้เสนอ ขอเสนอเลื่อนญัตตินี้บรรจุไว้เรื่องด่วนเรื่องสุดท้าย มาเป็นเรื่องด่วนเรื่องแรก และหากไม่มีการแย้งกัน ก็จะสามารถนำเข้าสู่การพิจารณา ในวันพุธที่ 16 ก.ค.

ขณะเดียวกัน นายชนินทร์ ยังกล่าวอีกว่า การพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เป็นการพิจารณากฎหมายร่วมกัน 4 ร่าง และอาจจะมีการเสนอเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 ร่างซึ่งเป็นร่างของพรรคภูมิใจไทยที่จะ ประกบร่วมเข้ามาเป็น 5 ร่าง และจะเปิดให้สภาได้มีการถกเถียงกันและลงมติ ที่จะรับหลักการ หากสภาเห็นชอบ ก็จะนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการ จะลงรายละเอียดเรื่องการออกกฎหมายเกี่ยวกับนิรโทษกรรมต่อไป ว่าจะครอบคลุมในประเด็นใดบ้าง

ขณะเดียวกัน นายชนินท์ ยังให้ความมั่นใจต่อกรณีของการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเอง ก็อยากให้ประชาชนรับทราบตรงกัน จากกรณีที่มีการส่งเอกสารของสหรัฐอเมริกาและเปิดเผยต่อสาธารณะ ถึงใจความของเอกสารดังกล่าว สาระสำคัญคือ การแจ้งว่าจะมีการปรับภาษีเริ่มต้นในวันที่ 1 ส.ค. นั่นหมายความว่า เป็นการถอยระยะเวลาในการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม และในเนื้อความของจดหมายยังเปิดกรอบให้สามารถมีการเจรจาเพิ่มเติมได้ตลอดระยะเวลา จึงอยากให้มองในแง่บวก ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เราสามารถเจรจาเพิ่มเติมได้และคงต้องคาดหวังกับฝั่งรัฐบาลที่จะทำงานอย่างเข้มข้น และมีการเจรจาเพื่อต่อรอง และสามารถปรับกรอบภาษีสูงสุดที่ตั้งไว้ที่ 36% ให้ลดลงมาได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากนี้

ขณะเดียวกัน ยังมีอีก 1 ข้อสังเกตที่ตั้งไว้ จดหมายที่ตั้งไว้จากทางสหรัฐอเมริกาเป็นจดหมายที่ออกก่อนที่จะมีการเจรจากับทีม ไทยแลนด์ ที่เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาและก่อนที่จะมีการเสนอข้อเสนอชุดใหม่ที่ทางรองนายกรัฐมนตรีนำส่งไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดังนั้น ยังมีความหวัง และมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานขับเคลื่อนร่วมกันว่าให้ข้อเสนอที่นำเสนอไปใหม่เป็นข้อเสนอที่ดีเพียงพอที่จะปรับลดอัตราภาษีที่เป็นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทำงานของฝั่งบริหารที่ราบรื่นหลังจากนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ของประชาชนในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆที่พรรคเพื่อไทยจะนำถึงมือของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น