ครม.เห็นชอบขยายเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือ รัฐบาลกับโครงการพัฒนาแห่งUNDP ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กทม. - UNDP หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย
วันนี้ (8ก.ค.) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ดังนี้
1.เห็นชอบร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐบาล
แห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคกรุงเทพมหานคร - UNDP (Bangkok - UNDP Regional Innovation Center: RIC) (ศูนย์ RIC) (ร่างพิธีสารฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างพิธีสารฯในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดผลประโยชน์ของประเทศไทย ขอให้ สศช. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
2. อนุมัติให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างพิธีสารฯ ของฝ่ายไทย พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม
3.เห็นชอบกรอบวงเงินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับ UNDP ในการดำเนินงานศูนย์ RIC (โครงการความร่วมมือ RIC) รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 72,000,000 บาท โดย สศช. จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป (ร่างพิธีสารฯ เป็นการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือ RIC จากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568เป็นวันที่ 30 กันยายน 2570 เพื่อขยายผลกระบวนการพัฒนานวัตกรรมนโยบายให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลแก่ประเทศไทยมากที่สุด)
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า ร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือฯ ออกไปอีก 31 เดือน (ครั้งที่ 4) นับแต่วันสิ้นสุดความตกลงว่าด้วยโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในการดำเนินงานศูนย์ RIC (ความตกลงศูนย์ RIC) จาก 28 กุมภาพันธ์ 2568 เป็น วันที่ 30 กันยายน 2570 (มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2568 - 30 กันยายน 2570) เพื่อผลักดันการใช้นวัตกรรมเชิงนโยบายในการออกแบบนโยบายระดับชาติและขยายผลการพัฒนานวัตกรรมนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายสาธารณะ โดยที่ผ่านมามีผลการดำเนินโครงการความร่วมมือ RIC ที่สำคัญทั้งสิ้น จำนวน 63 ชิ้นงาน เช่น การพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการแบบใหม่ รวมทั้งการขยายผลต่อยอดร่วมกับภาคีเครือข่ายการดำเนินงาน โดยเฉพาะการพัฒนาและทดลองใช้กระบวนการนโยบายสาธารณะ ขั้นตอนและการประยุกต์ใช้เครื่องมือเชิงนโยบายต่าง ๆ ในพื้นที่จริง นอกจากนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีแนวทางในการดำเนินโครงการความร่วมมือ RIC ในระยะต่อไป โดยขยายผลนวัตกรรมนโยบายสาธารณะจากองค์ความรู้ของห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย โดยการนำองค์ความรู้และเครื่องมือการพัฒนานวัตกรรมนโยบายสาธารณะไปขับเคลื่อนประเด็นนโยบายสาธารณะ และสร้างเครือข่ายความรู้นวัตกรรมนโยบายสาธารณะในระดับภูมิภาค ผ่านกลไกของ UNDP
ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ (สงป.) และสำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาแล้วเห็นด้วย/เห็นสมควรให้ความเห็นชอบ/ไม่มีข้อขัดข้องตามที่ สศช. เสนอ เนื่องจากจะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องบรรลุเป้าหมาย และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านนวัตกรรมและเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรของไทย โดย สงป. เห็นควรให้ สศช. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณีตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า ร่างพิธีสารฯ
เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น สศช. จึงขอให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารฯ ของฝ่ายไป