โฆษก กมธ.งบประมาณฯ เผยเรียก "พิชัย" แจงผลกระทบภาษีสหรัฐ 36% สัปดาห์หน้า แต่หากมาไม่ได้อาจให้ "จุลพันธ์" ที่อยู่ใน กมธ.ชี้แจงแทน แย้มอาจต้องปรับงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเอกชนที่ได้รับผลกระทบ เผยไทยยังถูกจับตาจากอเมริกาขึ้นวอชลิสต์ประเทศละเมิดลิขสิทธิ์ ยันกรมทรัพย์สินฯ มีแผนจัดการรองรับ
วันที่ 8 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 แถลงข่าวความคืบหน้าการประชุม ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งอนุ กมธ.ในคณะต่างๆ 7 คณะ เพื่อพิจารณาตัดลดงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะประชุมพร้อมกันทุกวันกับห้องประชุมใหญ่ โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการพิจารณางบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ 11 หน่วยงาน 2 กองทุน มีการพูดถึงการดำเนินงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ กมธ.บางท่านกล่าวว่าประเทศไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีวอชลิสต์ (Watch List) ที่มีบัญชีที่ต้องจับตามองด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางผู้แทนของกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าหน่วยงานได้มีการบูรณาการ และมีแผนงานอย่างต่อเนื่อง ในการบังคับใช้กฎหมาย ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการปราบปรามสินค้าที่ละเมิด ทั้งในตลาดจริงและในตลาดออนไลน์ รวมทั้งได้ดำเนินการจัดทำแผนด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น แผนป้องกันการแอบอ้างสิทธิการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แผนป้องกันความล่าช้าในการดำเนินคดี การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องให้คณะ กมธ.พิจารณาปรับสัดส่วนงบประมาณในการรับมือกับภาษีทรัมป์ 36% ด้วย กมธ.มองอย่างไร นายชนินทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุม มีตัวแทนของ กมธ.ที่เสนอในห้องประชุมเหมือนกัน ว่าอยากให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้แทนไปเจรจากับสหรัฐฯ เข้ามาอัพเดตความคืบหน้า และตั้งเป้าหมายพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าการพิจารณางบควรดำเนินการอย่างไรต่อไป จะปรับลดส่วนไหนเป็นพิเศษหรือไม่
“เรามีมติให้ส่งเอกสารแจ้งให้ทางท่านทราบ เดี๋ยวรอดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ก็เข้าใจว่านอกเหนือจากตัวท่านพิชัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรายังมีท่านจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นั่งเป็น กมธ.อยู่ในคณะด้วย หากท่านพิชัยไม่สะดวก ก็คงมอบหมายให้ท่านจุลพันธ์เป็นผู้นำเสนอหรือหารือกับ กมธ.ต่อไป ซึ่งเข้าใจว่าต้องพิจารณาว่ามีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยังไม่ได้มีการหารือในชั้น กมธ.ในขณะนี้” นายชนินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่าแนวทางความเห็นของ กมธ. คุยกันว่าอย่างไรบ้าง นายชนินทร์กล่าวว่า เป็นความกังวลของเพื่อนสมาชิกบางส่วน ว่าเราจำเป็นต้องเตรียมงบประมาณสำหรับช่วยเหลือภาคเอกชนต่างๆ หรือไม่ หากมีความจำเป็น จะต้องมีการปรับลดงบประมาณบางส่วน เพื่อเตรียมในส่วนนั้นหรือไม่ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะในส่วนของรัฐบาลเองก็มีงบประมาณที่เตรียมไว้สำหรับมาตรการต่างๆไว้แล้วอยู่เหมือนกัน