อดีตเลขาฯ รมว.ต่างประเทศ แนะ “อิ๊งค์” อย่าชักเข้าชักออกเรื่องโบราณวัตถุกัมพูชา รับปากเขาแล้วว่าจะคืนก็ต้องคืน ไม่ต้องเอามาเป็นประเด็นการเมือง เพราะไม่ใช่งานมาสเตอร์พีซ เก็บไว้ก็ไม่มีคุณค่าอะไรแก่เรา ไม่ได้สร้างอำนาจต่อรองอะไร
จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงว่า จะทบทวนการส่งคืนโบราณวัตถุ 20 ชิ้น ให้กัมพูชาตามมติคณะรัฐมนตรีสมัย นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและไม่มีงบประมาณในการขนส่ง ทำให้กระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชา ต้องส่งหนังสือมาทวงให้ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้ตอน น.ส.แพทองธาร ไปเยือนกัมพูชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เมือเดือนเมษายน 2568 ซึ่งได้มีกำหนดการเรียบร้อยแล้วว่าจะทำพิธีส่งมอบในเดือนกรกฎาคมนี้ และเริ่มขนส่งไปยังกัมพูชาในเดือนสิงหาคม 2568 โดยทางกัมพูชาจะออกค่าขนส่งเอง ไม่ให้เป็นภาระทางงบประมาณต่อกระทรวงวัฒนธรรมของไทยนั้น
วันนี้ (7 ก.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า “อย่าชักเข้าชักออก เรื่องคืนสมบัติโบราณวัตถุให้เขมร สมัยเป็นนายกฯ ไปตกลงคืนให้เขา พอเป็นรัฐมนตรีกลับเปลี่ยนใจดึงเรื่องไว้
“โบราณวัตถุเหล่านั้นไม่ใช่ของเราแน่นอน ส่งมาไทยจากสิงคโปร์กว่า 30 ปีแล้ว แม้กัมพูชาจะไม่มีหลักฐานชัดเจนมาแสดง แต่เขาแอบมาขอดูหลายครั้งและขอบางชิ้น
“ชิ้นที่อาจจะดูดีมีราคา คือ กลีบขนุนประดับส่วนมุมของพระปรางค์ แต่เมื่อหลวมตัวตกปากรับคำส่งคืนไปแล้ว ให้เขาไปเหอะ เก็บไว้ก็ไม่มีคุณค่าอะไรแก่เรา
“เรื่องนี้อย่าเอามาเป็นประเด็นการเมือง ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรมากมายนัก ไม่ใช่มาสเตอร์พีชที่เขาต้องเอาให้ได้ เหลือเรื่องดีๆ ให้หลงเหลืออยู่บ้าง อย่าชักเข้าชักออก” นายนันทิวัฒน์ ระบุ