“รังสิมันต์” เตือนคนไทยอย่าอยู่กัมพูชาเกินวีซ่ากำหนด เหตุค่าปรับสูง หวั่นเปิดช่องให้นายจ้างลดเงินเดือน-เรียกเก็บส่วย เตรียมประสาน กต.สางปัญหาคนไทยติดค้างปอยเปต จี้รัฐทลายโครงสร้างอาชญากรรมข้ามชาติ ลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานมั่นคง และฝ่ายปกครองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พื้นที่ จ.สระแก้ว มีปัญหาหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจชายแดน เพราะเมื่อไทยมีการควบคุมและฝั่งกัมพูชามีการปิดด่าน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เรื่องนี้ไม่มีวิธีการอื่นนอกจากการเจรจาของทั้งสองฝ่าย เพื่อหาทางออก ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะเห็นแต่การปราบปรามรายย่อย ซึ่งไม่สามารถทลายโครงสร้างอาชญากรรมข้ามชาติได้
แต่ที่ผ่านมา ไม่มีการดำเนินการมากนัก ทาง กมธ.ได้ให้ข้อมูลกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ในกลุ่มเป้าหมายขบวนการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 7คน โดยหวังว่าจะนำไปสู่การขยายผล เราทราบข้อมูลว่าบางคนเป็นพื้นที่เจ้าของเอกชน ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และตำรวจในพื้นที่ และมีความเกี่ยวข้องกับการพาคนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งยังไม่มีการสอบสวนอะไรเลย คงต้องใช้เครื่องมือของ ปปง.ในการสอบสวน หากจะดำเนินการสอบสวนคงจะรวดเร็วเพราะมีข้อมูลในระบบอยู่แล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการแยกเหยื่อแยกอาชญากร ทาง กมธ.ได้ให้คำแนะนำว่าจะต้องนำข้อมูลของคนที่เข้าสู่กระบวนการไปเป็นประโยชน์ในการขยายผล ซึ่งมีการโต้แย้งว่าขั้นตอนการแยกเหยื่อแยกอาชญากร มีปัญหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จึงต้องมีการปรับจูนระหว่างภาคประชาสังคมและภาคภาครัฐ เพื่อให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนคนไทยที่ติดค้างอยู่ในปอยเปต จากข้อมูลพบว่า มีมากถึง 1,500-2,000 คน ซึ่งจะมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร หากเป็นคนไทยที่อยู่เกินกำหนดวีซ่า ในฝั่งกัมพูชามีโทษปรับที่รุนแรงกว่าไทย ทำให้เกิดความยากลำบากในการกลับเข้ามาที่ประเทศไทย
ซึ่งเมื่อเช้ามืด ทาง กมธ.ได้ลงพื้นที่เก็บบันทึกภาพพบคนที่เข้ามายังฝั่งไทย โดยไม่ได้ใช้ช่องทางปกติ คนเหล่านี้ไม่สามารถกลับเข้ามาในช่องทางปกติได้ เนื่องจากอยู่เกินกำหนดวีซ่าในกัมพูชา ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่เข้าไปทำงานสุจริต ไม่ได้ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งยังมีจำนวนมาก จึงขอเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวัง ไม่ให้อยู่เกิน เพราะบางครั้งเมื่อนายจ้างรู้ว่าอยู่เกินกำหนดจะปรับลดเงินเดือน และมีคนมาเรียกเก็บส่วย บางคนกลายเป็นขอทานในกัมพูชา จึงต้องกระตุ้นไปยังกระทรวงการต่างประเทศว่าจะมีมาตรการอย่างไร