”นพ.ประพนธ์ “จี้เร่งออกกม.ควบคุมกัญชา หลังปลดล็อกกว่า 3 ปี ยังไม่พบปัญหาร้ายแรง ยันไม่จำเป็นต้องจัดกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เตือนหากควบคุมเข้มเกิน แพทย์อาจไม่กล้าจ่ายให้ผู้ป่วย
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เปิดใจถึงจุดยืนเรื่องกฎหมายควบคุมการใช้ "ช่อดอกกัญชา" และแนวทางการผลักดันกัญชาให้ถูกต้องว่า เรื่องกัญชามีความชัดเจนมาหลายปีแล้วว่ามีข้อดีทางการแพทย์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
"หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขสมัยนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ควรจะมี พ.ร.บ. ควบคุมพืชกัญชา ตามมาทันที แต่กฎหมายฉบับนี้กลับค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น หากเห็นว่ากัญชามีประโยชน์ ก็ต้องเร่งออกกฎหมายควบคุมพืชกัญชา ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนถึงวันนี้ที่กฎหมายยังถูกดอง“
ส่วนประเด็นที่หลายคนกังวลว่าจะต้องนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้น นพ.ประพนธ์ มองว่า ไม่มีความจำเป็น ยกตัวอย่างว่า ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา กัญชายังไม่มีเรื่องราวอะไรรุนแรงเท่ายาบ้าที่มีข่าวผลกระทบมากกว่า
ส่วนที่มีความกังวลของนักวิชาการเรื่องการจำกัดปริมาณการใช้ช่อดอกกัญชาที่ 1 กรัมต่อวัน หรือ 30 กรัมต่อคนต่อเดือน รวมถึงการตัดแนวทาง 15 โรคออก เหลือเพียงดุลยพินิจของแพทย์ นั้น นพ.ประพนธ์ กล่าวว่าตนห่วงว่า หากแพทย์ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ก็จะไม่กล้าจ่ายกัญชา และการควบคุมมากเกินไปจะทำให้ความสะดวกในการใช้ลดลง ดังนั้น สภาวิชาชีพต่างๆ จะต้องพิจารณาและออกแนวปฏิบัติให้ชัดเจนว่า อาการแบบไหน ควรใช้กัญชาในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุด