เปิดสภาวันแรก สส.คึกคัก! "อดิศร“ ร่ายกลอนป้อง “อิ๊งค์” บอกจงเข้มแข็ง-คนหลายล้านเคียงข้างคุณ เหน็บ บางพรรคถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาลไม่ทันไร สว.สีน้ำเงินร้อง ศร.สั่ง ”แพทองธาร“ หยุดปฏิบัติหน้าที่เลย
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มี สส.มาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงในช่วงเช้า
เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อปิดสมัยประชุมฯ สถานการณ์ทางการเมือง รู้สึกสับสนพอสมควร มีการชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา การชุมนุมแบบสันติถือเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อประชาชนเฝ้าดูตามปราศรัยของแกนนำ บางคนเลยเถิดไปบางคนปราศรัยเปิดทางให้มีการรัฐประหาร หากมีรัฐประหารแล้วจะไม่ขัดข้อง แต่มีแล้วต้องให้พลเรือนปกครองไม่ใช่ให้พลเอก
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ตนถือว่าปัญหาเรื่องการกวักมือให้ทหารมาทำรัฐประหารนั้น เป็นการทำลายระบอบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตย ต่อมามีพรรคการเมืองหนึ่งออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทันไรสว.สีน้ำเงิน 36 คนก็ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ และศาลรัฐธรรมนูญก็รับลูกทันทีว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งน.ส.แพทองธารยังไม่ได้มีความผิดอะไร ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยว่าจริยธรรมร้ายแรงที่ถูกกล่าวหานั้นผิดหรือไม่
นายอดิศร กล่าวต่อว่า จึงขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะท่านมาตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ให้ระบอบอื่นหรืออำนาจอื่นมาแทรกแซงการถ่วงดุลอำนาจตามอธิปไตย ตนมองว่าอำนาจตุลาการและนิติบัญญัติ เขาวางระเบียบไว้อยู่ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เขาจะมีเรื่องราวอะไรกันก็แล้วแต่ แต่ตนอยากให้ประชาชนคนไทยและกัมพูชารักกัน ไม่มีข้อบาดหมางกัน อยากให้ท่านประธานไปเยี่ยมกัมพูชาหรือกัมพูชามาเยี่ยมเรา ในฐานะที่เป็นประชาชน หากจะรบหรือเกิดสงครามไม่มีประโยชน์ใดๆ
“ผมขอฝากกลอนไว้ว่า ให้ถอนตัวหรือลาออก บางคนบอกให้ยุบสภา ใช้ตุลาการพิจารณา พร้อมเรียกหารัฐประหาร หน้าเก่าเมื่อครั้งก่อน เคยหลอกหลอนมีหลักฐาน จงเข้มแข็งแพทองธาร ประชาธิปไตยคือปราการปกป้อง จงเข้มแข็งแพทองธาร คนหลายล้านเคียงข้างคุณ” นายอดิศร กล่าว
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มี สส.มาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงในช่วงเช้า
เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อปิดสมัยประชุมฯ สถานการณ์ทางการเมือง รู้สึกสับสนพอสมควร มีการชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา การชุมนุมแบบสันติถือเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อประชาชนเฝ้าดูตามปราศรัยของแกนนำ บางคนเลยเถิดไปบางคนปราศรัยเปิดทางให้มีการรัฐประหาร หากมีรัฐประหารแล้วจะไม่ขัดข้อง แต่มีแล้วต้องให้พลเรือนปกครองไม่ใช่ให้พลเอก
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ตนถือว่าปัญหาเรื่องการกวักมือให้ทหารมาทำรัฐประหารนั้น เป็นการทำลายระบอบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตย ต่อมามีพรรคการเมืองหนึ่งออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทันไรสว.สีน้ำเงิน 36 คนก็ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ และศาลรัฐธรรมนูญก็รับลูกทันทีว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งน.ส.แพทองธารยังไม่ได้มีความผิดอะไร ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยว่าจริยธรรมร้ายแรงที่ถูกกล่าวหานั้นผิดหรือไม่
นายอดิศร กล่าวต่อว่า จึงขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะท่านมาตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ให้ระบอบอื่นหรืออำนาจอื่นมาแทรกแซงการถ่วงดุลอำนาจตามอธิปไตย ตนมองว่าอำนาจตุลาการและนิติบัญญัติ เขาวางระเบียบไว้อยู่ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เขาจะมีเรื่องราวอะไรกันก็แล้วแต่ แต่ตนอยากให้ประชาชนคนไทยและกัมพูชารักกัน ไม่มีข้อบาดหมางกัน อยากให้ท่านประธานไปเยี่ยมกัมพูชาหรือกัมพูชามาเยี่ยมเรา ในฐานะที่เป็นประชาชน หากจะรบหรือเกิดสงครามไม่มีประโยชน์ใดๆ
“ผมขอฝากกลอนไว้ว่า ให้ถอนตัวหรือลาออก บางคนบอกให้ยุบสภา ใช้ตุลาการพิจารณา พร้อมเรียกหารัฐประหาร หน้าเก่าเมื่อครั้งก่อน เคยหลอกหลอนมีหลักฐาน จงเข้มแข็งแพทองธาร ประชาธิปไตยคือปราการปกป้อง จงเข้มแข็งแพทองธาร คนหลายล้านเคียงข้างคุณ” นายอดิศร กล่าว