xs
xsm
sm
md
lg

“ประมูลคลื่น 29 มิ.ย. พลิกโฉมเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดความเหลื่อมล้ำทั่วทุกตำบล สร้างรายได้รัฐกว่า 4.1 หมื่นล้าน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากการประมูลคลื่นความถี่ 850 MHz, 1 500 MHz, 2 100 MHz และ 2 300 MHz ของกสทช. ได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและโทรคมนาคมว่าเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และยังเป็นโอกาสทองในการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลอย่างทั่วถึง

แหล่งข่าวจากสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยและศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ เปิดเผยว่า “การประมูลคลื่นครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เข้าสู่คลังแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับประกันว่าประชาชนทุกคนจะได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงร่วมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือชนบท” โดยที่ผ่านมาประเทศไทยยังประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายเท่า ทั้งนี้ การประมูลคลื่นความถี่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังสอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากลในการจัดประมูลล่วงหน้า เพื่อป้องกันปัญหา “ซิมดับ” และวางเงื่อนไขให้ผู้ชนะประมูลต้องขยายเครือข่าย 5G ครอบคลุมทุกตำบลภายใน 24 เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกชุมชนได้ใช้ศักยภาพดิจิทัลเต็มที่ โดยสรุปสามารถกล่าวได้ว่าการประมูลคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติของชาติในครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ถึง 4 ประการต่อประเทศไทย


ประโยชน์ประการที่ 1 : สร้างรายได้เข้ารัฐกว่า 41,000 ล้านบาท–เสริมสภาพคล่องงบประมาณ ลดภาระกู้ยืม การประมูลครั้งล่าสุดสร้างรายได้เข้ารัฐรวม 41,062 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาขั้นต่ำถึงร้อยละ 15 สะท้อนถึงการแข่งขันที่เข้มข้นของผู้ให้บริการทั้งหมด

“ตัวเลขนี้ช่วยลดภาระการกู้เงินของรัฐบาลได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท ในงบประมาณปีถัดไป และยังเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้โครงการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE Fund) ทำงานได้ต่อเนื่อง”

งบประมาณจากการประมูลจะถูกจัดสรรไปยังกองทุน DE Fund เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในโรงพยาบาลของรัฐ โรงเรียนในชนบท และศูนย์เทคโนโลยีชุมชน


ประโยชน์ประการที่ 2 : ประมูลล่วงหน้า–รับประกันบริการต่อเนื่อง ป้องกัน “ซิมดับ” การจัดประมูลก่อนสิ้นสุดสัมปทานเดิมในเดือนสิงหาคม 2568 สร้างความมั่นใจว่าบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจะไม่ขาดช่วง ทั้งนี้เพราะ“หากไม่มีการประมูลล่วงหน้า อาจเกิดเหตุ ‘ซิมดับ’ ส่งผลให้ผู้ใช้หลายแสนเลขหมายหลุดออกจากระบบในเวลาอันสั้น” แนวปฏิบัติดังกล่าวสอดคล้องกับออสเตรเลียและเยอรมนี ที่ดำเนินการประมูลล่วงหน้าเพื่อรับประกันบริการ 24 ชั่วโมง

ประโยชน์ประการที่ 3 : เงื่อนไข Roll-Out ครอบคลุมทุกตำบล–ปิดช่องว่างดิจิทัล กสทช. กำหนดให้ผู้ชนะการประมูลต้องขยายเครือข่าย 5G ครอบคลุมทุกตำบลภายใน 24 เดือน นับจากวันออกสัมปทาน นโยบายนี้จะทำให้ชุมชนห่างไกลเข้าถึงความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 150 Mbps ต่อยอดไปสู่นวัตกรรมระดับท้องถิ่น เช่น Smart Farming, Telemedicine และการเรียนออนไลน์ รายงานของ ITU (International Telecommunication Union) ระบุว่าประเทศที่กระจายเครือข่าย 5G อย่างทั่วถึงสามารถลดช่องว่างรายได้ระหว่างเมืองและชนบทได้มากว่า 20% ภายใน 5 ปี


ประโยชน์ประการที่ 4 : ผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล–สร้างงาน ดึงดูดการลงทุน “การประมูลคลื่นครั้งนี้จะกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมไอทีและสตาร์ทอัพไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปี” คลื่นความถี่ที่ได้มาจะนำไปสู่การพัฒนาบริการใหม่ ๆ ทั้ง IoT สำหรับภาคเกษตรและอุตสาหกรรม, e-Commerce และแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเทศ คาดว่า ภายในปี 2570 จีดีพีดิจิทัลของไทยจะขยายตัวจาก 16% เป็นกว่า 25% ของจีดีพีรวม

การประมูลคลื่นความถี่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน จึงไม่ใช่เพียงการจัดสรรทรัพยากรให้แก่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม แต่เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน สร้างรายได้ให้รัฐ เสริมสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยี และจูงใจให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในทุกภูมิภาค นับเป็นผลงานที่กสทช. สมควรได้รับเสียงชื่นชมในฐานะองค์กรกำกับดูแลที่มองการณ์ไกล เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น