กลุ่ม “ไม่นะกัญชาและยาเสพติด ”เป็นตัวแทน 2 แสนรายชื่อ เข้าพบ “สมศักดิ์” ขอเป็นแรงหนุนให้นำกัญชาเป็นยาเสพติด – ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น พร้อมเป็นกำลังใจ ไม่ปล่อยให้โดดเดี่ยว
วันนี้ (30 มิ.ย.69) เครือข่ายเยาวชน “ไม่นะกัญชาและยาเสพติด” (Youth Network Against Cannabis: YNAC) นำโดย นายยศกร ขุนภักดี และสมาชิกกลุ่ม เดินทางเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจและแสดงความขอบคุณหลังจากออกประกาศกระทรวงคุมเข้มกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น
ทั้งนี้นายยศกรกล่าวว่า ทางกลุ่ม YNAC รู้สึกดีใจที่นายสมศักดิ์ ได้ออกประกาศกระทรวงให้ใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์อย่างแท้จริง จึงถือโอกาสเป็นตัวแทน 2 แสนรายชื่อที่ลงชื่อสนับสนุนเรื่องนี้ มาขอบคุณ และอยากเป็นแรงหนุนให้ดำเนินนโยบายให้รอบคอบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา หลังจากมีการปลดล็อกกัญชาทำให้เยาวชนเข้าถึงเป็นจำนวนมาก ทั้งระดับมหาวิทยาลัย มัธยมศึกษา และล่าสุด กลุ่มนักเรียนประถมก็เริ่มพบมีการใช้กัญชา โดยทางโรงเรียนมีความกังวลและได้สะท้อนปัญหาให้ทางกลุ่มรับทราบ โดยเป็นห่วงผลของการใช้กัญชาทำให้เด็กสมาธิสั้น การเรียนการสอนยากขึ้น ดังนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้ท่านในการดำเนินการเรื่องนี้
“ขอขอบคุณ และให้กำลังใจในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่อยากให้ท่านโดดเดี่ยว และจะหาโอกาสนำข้อมูล ความจริงหลังการปลดล็อกกัญชาแล้วสถานการณ์เป็นอย่างไรมาให้ท่านรับทราบด้วย”ตัวแทนเครือข่ายกล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับกำลังใจและที่มาแสดงจุดยืนสนับสนุนครั้งนี้ ยืนยันว่าจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง หากทางกลุ่มมีข้อมูลอะไรก็พร้อมรับฟัง และขอให้ช่วยกันตรวจตราผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยหลังจากออกประกาศแล้ว จะมีความเข้มข้นขึ้น ภายในเดือน ก.ค. - ส.ค. กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะจัดอบรมแบบออนไลน์ ระยะเวลา 6 ชั่วโมง และขึ้นทะเบียนผู้ผ่านการอบรม และเมื่อสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการจัดอบรมแล้ว ผู้ออกใบสั่งจ่าย ภ.ท. 33 ได้ จะต้องอยู่ในรายชื่อที่ขึ้นทะเบียนอนุญาตนี้แล้วเท่านั้น และจะจัดอบรมผู้ช่วยเหลือแนะนำการใช้กัญชา ในกลุ่มบัดเทนเดอร์ เดิม เพื่อเพิ่มความเข้าใจทางการแพทย์ และขึ้นทะเบียนผู้ช่วยเหลือที่ผ่านการอบรม ส่วนร้านค้าต่างๆ ต้องทำรายงานว่าต้องจ่ายให้ใคร ตามใบสั่งจ่ายของแพทย์ เพื่อให้เป็นกัญชาทางการแพทย์อย่างแท้จริง หากมีการฝ่าฝืนก็จะยึดใบอนุญาต โดยแต่ละเดือนจะเก็บสถิติร้านค้า เพื่อพิจารณาว่าต้องประกาศอะไรเพิ่มเติมเพื่อเอาให้อยู่ ถ้าเอาไม่อยู่เราจะบอกประชาชนว่าจะผลักดันเป็นยาเสพติด
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เปิดโอกาสให้ทางเครือข่ายได้แสดงความคิดเห็น โดยทางกลุ่มได้แสดงความห่วงใยเรื่องร้านค้า ที่ยังมีการเปิดให้บริการ และมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอย่างหนาแน่น ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าลูกค้าเหล่านั้นมีใบสั่งจ่ายจากแพทย์หรือไม่ รวมทั้ง การเปิดร้านค้าใกล้สถานศึกษา หลังจากรับฟังข้อห่วงใยต่างๆ นายสมศักดิ์ ก็ได้ขอให้ช่วยกันชี้เป้าร้านกระทำผิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบต่อไป