สัญญาณแปลก ทักษิณกบดานเงียบ !?

เมืองไทย 360 องศา

หลายคนเริ่มสงสัยกันมากขึ้นว่า เหตุใด นายทักษิณ ชินวัตร ถึงไม่ปรากฏตัวหรือออกมาพูดในหลายเรื่อง ที่กำลังกลายเป็นปัญหารุมเร้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี “ลูกสาว” ของตัวเอง การหายหน้าไปของเขา ซึ่งรวมถึงการไม่ยอมออกมาให้สัมภาษณ์ และแสดงความเห็น นับตั้งแต่มี “คลิปหลุด” การสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวนายกรัฐมนตรีอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเรื่องความชอบธรรม และไม่ไว้วางใจ

นายทักษิณ ชินวัตร ปรากฏตัวครั้งล่าสุด เมื่อครั้งไปร่วมงานศพ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายรัฐมนตรี ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร จากนั้นก็หายหน้าไปเลย โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ “คลิปหลุด” การสนทนาดังกล่าว ที่มีการเผยแพร่ออกมาจากฝ่ายของ นายฮุนเซน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา

จากกรณีคลิปดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในเรื่องความชอบธรรมกับ การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่นายทักษิณ ก็ไม่ยอมออกมาปริปากพูด หรือได้ยินการให้สัมภาษณ์ให้ความเห็นแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก ทั้งๆ ที่ความหมายของนายฮุน เซน นอกจากมีเจตนาทำลายประเทศไทย ทำลายนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังพุ่งเป้ามายัง นายทักษิณ อีกด้วย

แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่มีการระบุออกมาตรงๆ แต่การปล่อยคลิปแบบนี้ รวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่มีการพูด“ทวงบุญคุณ” กับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ที่อ้างว่าเขาเคยให้การช่วยเหลือเลี้ยงดู ในช่วงเวลาหนึ่งที่มีปัญหาในประเทศไทย

อย่างไรก็ดี คำพูดดังกล่าวของนายฮุน เซน หลายคนตีความว่า เจตนาที่แท้จริงเขาต้องการกระทบชิ่ง หรือฝากไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร โดยตรงมากกว่า เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ นายฮุน เซน ได้ปล่อยภาพที่น.ส.แพทองธาร และสามี ไปชมห้องพักของ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นบ้านของ นายฮุนเซน ในกรุงพนมเปญ ที่ให้อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองคนพี่น้อง ได้เคยนอนหลบหนีภัยอยู่ที่นั่นมาก่อน

สำหรับคนที่สงสัย และระคนแปลกใจว่าเหตุใด นายทักษิณ ชินวัตร ถึงเก็บตัวเงียบ ไม่ออกมาพูดหรือให้ความเห็นช่วยเหลือ ลูกสาวตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ออกมาแสดงความเห็นช่วยประคับประคองรัฐบาล แต่ก็หายเงียบไปเลย

“สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างมากคือ ทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ เก็บตัวเงียบผิดปกติ ไม่เสนอหน้าต่อสังคมเพื่อช่วยกู้ศรัทธาให้ นายกฯลูกสาว มีแต่คนอื่นนำคำพูดมาบอกว่า ทักษิณ พูดอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ทักษิณ ไม่กล้าปรากฏตัวในสถานการณ์ร้อนแรง รุมถล่มนายกฯ จวนเจียนพัง ทักษิณ คุณอยู่ไหน คิดอะไรอยู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ตั้งข้อสังเกต

ขณะเดียวกัน เขายังมั่นใจว่า ในการชุมนุมวันที่ 28 มิถุนายน นี้ ประชาชน อีกทั้งอดีตนายพล ข้าราชการระดับสูงมาร่วมชุมนุมสำแดงพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยอย่างมืดฟ้ามัวดิน และเต็มบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะประเมินจากเสียงตอบรับจากต่างจังหวัดจะทยอยเข้าร่วม

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งน่าสนใจมีประชาชนร่วมบริจาคเงินจัดการสำแดงพลังจำนวนมาก แค่วันเศษๆ มียอดเงินบริจาคมากกว่า 10 ล้านบาท และเข้าใจว่าจะมีตัวเลขเงินเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยจะปิดบัญชีบริจาค เมื่อเที่ยงคืน 28 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม เงินบริจาคนี้นำมาใช้จ่ายในการชุมนุม และเหลือเท่าไรนำไปมอบให้กองทัพภาค 2 ทั้งหมด

“ถ้าวันที่ 28 มิถุนายน ประชาชนมาอย่างมืดฟ้ามัวดินแล้ว มันจะเป็นคำตอบว่า จะลาออกหรือไม่ มันจะเป็นคำตอบว่าจะถอนตัวหรือไม่ ถ้านายกฯ ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลด้วยใจระทึกอีก และสส.พรรคร่วม ก็รอคดีฝ่าฝืน ม.144 ต่ออีกด้วย” เขาระบุ

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดต ยอดเงินรับบริจาค เข้าบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 008-109529-9 เพื่อให้มูลนิธินำเงินไปมอบให้ “กลุ่มพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ที่จะจัดกิจกรรมชุมนุมสาธารณะเพื่อให้ความรู้และแสดงความรักชาติปกป้องอธิปไตยไทย วันที่ 28 มิถุนายนนี้

โดยระบุว่า “2 วัน 17 ล้านบาท” จากพี่น้องประชาชนหลั่งไหลมาสนับสนุนการชุมนุม และนำรายได้ส่วนที่เหลือสนับสนุนกองทัพภาคที่ 2

2 วันผ่านไป เวลา10.47 น. ตั้งแต่เช้าของวันนี้มีผู้โอนเงิน 2,848 รายการ รวมเป็นเงิน 17,144,742.70 บาท เข้าบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 008-109529-9 เพื่อให้มูลนิธินำเงินไปมอบให้ “กลุ่มพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ที่จะจัดกิจกรรมชุมนุมสาธารณะเพื่อให้ความรู้และแสดงความรักชาติปกป้องอธิปไตยไทย ในวันที่ 28 มิถุนายน 2568

หากพิจารณาจากยอดเงินบริจาคดังกล่าว ที่หลั่งไหลเข้ามา มันย่อมสะท้อนให้เห็นว่า การชุมนุมในวันที่ 28 มิถุนายนนี้จะต้องมีประชาชนจำนวนมากจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วม หรืออย่างน้อยก็ต้องส่งแรงใจในหลากหลายรูปแบบ

เมื่อวกมาที่ข้อสังเกตที่นายทักษิณ ชินวัตร กำลังกบดาบเงียบ ไม่ออกมาปรากฏตัวหรือแสดงความเห็นใดๆ นับตั้งแต่ นายฮุนเซน ปล่อยคลิปสนทนากับบ น.ส.แพทองธาร จนสร้างผลกระทบในทางลบอย่างหนักกับรัฐบาลที่นำโดยลูกสาวของเขา อย่างไรก็ดี หลายคนเชื่อว่าสาเหตุที่ไม่ออกมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจะยิ่งยั่วยุให้ นายฮุนเซน โกรธมากขึ้น และเสี่ยงที่จะ“ถูกแฉความลับ” บางอย่างออกมา เพราะหากย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนายฮุน เซน และ นายทักษิณ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก จนกลายเป็น “ดอง” ระหว่างสองครอบครัวกันเลยทีเดียว

ดังนั้น จึงเชื่อว่า นายฮุนเซน ต้องกุมความลับของนายทักษิณ หลายเรื่อง ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ นายทักษิณ ต้องกบดานเงียบ ประเภทที่เรียกว่า “แทบไม่กล้าหายใจ” หรือเปล่า ซึ่งลักษณะแบบนี้ถือว่าผิดวิสัยของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลูกสาวกำลังประสบมรสุมทางการเมืองอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน สำหรับตัวเขา คือ นายทักษิณ ก็กำลังเจอคดีสำคัญที่ต้องลุ้นว่าจะต้องเข้าคุกจริงจังหรือไม่ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนความจริงเกี่ยวกับการบังคับจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับ “ชั้น 14” ที่ถือว่าเวลางวดเข้ามาทุกทีแล้ว รวมไปถึงคดีความผิดตาม มาตรา 112 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนกรกฎาคมนี้ทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาต้องหวั่นไหวจนต้องกบดานเงียบ !!