xs
xsm
sm
md
lg

"สว.ภิญญาพัชญ์" แนะโครงการ "ซอฟต์พาวเวอร์" ของ รบ. อย่าต่างคนต่างเดิน ต้องบูรณาการร่วมกันมากกว่านี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (25 มิ.ย.) น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานโครงการซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ว่า ต้องเป็นแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับกระแสโลก ซึ่งประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์สูงและโดดเด่น ถือเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง เช่น อาหารไทย มวยไทย ผ้าไทย การแสดง ศิลปินไทย สิ่งเหล่านี้มีความแข็งแรงอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลจะต้องผลักดันให้เป็นระบบและมีความต่อเนื่อง รวมถึงกระจายโอกาสอย่างทั่วถึง ที่สำคัญที่สุด จะต้องทำงานกันอย่างบูรณาการ ไม่ใช่แค่กระทรวงเดียวทำหรือต่างคนต่างทำ ต้องมีการเชื่อมโยงการศึกษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

"อย่างเรื่องอาหาร ถ้าอยากผลักดันให้ไปไกลระดับโลก ต้องบูรณาการแบบข้ามกระทรวง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยผ่านเรื่องราว (Story telling) วัตถุดิบ และภูมิปัญญาท้องถิ่น , กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพัฒนาหลักสูตรเชฟไทย , กระทรวงพาณิชย์ ต่อยอดสินค้าและเจรจาการค้าไปในระดับโลก , กระทรวงการต่างประเทศ สนับสนุน Thai Select หรือ Thai Kitchen ไปยังสถานทูต และเปิดพื้นที่ให้จัดงานโปรโมต , กระทรวงดิจิทัลฯ สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เชฟและครีเอเตอร์ไทยเผยแพร่คอนเทนต์ ทำตลาดโลกด้วยสื่อใหม่ เป็นต้น" น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว

น.ส.ภิญญาพัชญ์ ย้ำว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเดิน หลายพื้นที่ในทุกภูมิภาคของประเทศมีทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นที่โดดเด่น แต่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การฝึกอบรม หรือช่องทางตลาด รัฐบาลต้อง กระจายโอกาส และสนับสนุนให้ท้องถิ่นเป็นผู้เล่นสำคัญ ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางใน กทม. เท่านั้น

“ท้องถิ่นคือแหล่งทุนทางวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สำคัญมาก รัฐบาลควรกระจายทรัพยากรและโอกาส เช่น ให้ชุมชนท้องถิ่นผลิตเนื้อหา จัดเทศกาล หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ร่วมกับภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญ การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อท้องถิ่นไม่ใช่แค่ผู้รับ แต่เป็นผู้สร้าง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว

น.ส.ภิญญาพัชญ์ ยังกล่าวว่า ซอฟต์พาวเวอร์หนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดว่ามาถูกทางคือผ้าไทย ตนมองว่าตอนนี้มีทิศทางดีขึ้นมาก แต่ก่อนตนไม่เคยใส่ผ้าไทยเลย แต่ปัจจุบันต้องหยิบมาใส่บ่อยมาก สมแล้วกับคำที่ว่าผ้าไทยใส่สนุก ซึ่งหากผลักดันดีๆ จะยิ่งทำให้ท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้น สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงและตระหนักในผ้าไทยมากขึ้น

"พี่เนี่ย เป็นวัยรุ่นตอนปลายแล้วนะคะ เพิ่งมาชอบผ้าไทย เพราะรู้สึกว่าใส่สนุก วันหนึ่งเราจะใส่สีอะไร ลายอะไร ผ้านี้มาจากจังหวัดไหน มันต้องเกิดจากการที่เรารับทราบข้อมูลข่าวสารก่อนว่าสิ่งที่เราใส่นี้มาจากอะไร มีที่มาอย่างไร และพอใส่ไปแล้วสวย มีคนมาชมเรา เราก็อุ๊ย ฉันอยากใส่ ใส่แล้วสนุก" น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว

น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า มูลค่าการดำเนินโครงการตามนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ใช้งบประมาณสูงมาก รัฐบาลจะต้องมีตัวชี้วัดตัดเกรดที่แม่นยำ ว่าแต่ละสิ่งที่ทำไปแล้วได้ผลหรือไม่ และต้องวางรากฐานให้ได้ในระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น