"ขิง"เปรียบตัวเป็นกัปตันเรือ ช่วย "อิ๊งค์" ฝ่ามรสุม สวนทางทัวร์กระหน่ำ จบทั้งคน จบทั้งพรรค! ** ครม.ใหม่โฟกัสความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง สถานการณ์โลก ยิ่งสำคัญ แต่ยังใช้คนหน้าเดิม

ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ "ขิง"เปรียบตัวเป็นกัปตันเรือ ช่วย "อิ๊งค์" ฝ่ามรสุม สวนทางทัวร์กระหน่ำ จบทั้งคน จบทั้งพรรค!

แม้ "อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะพูดถึงเรื่องการปรับครม."อิงค์2" ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ปัญหาจบแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามว่า แน่ใจหรือ !?

ต้องบอกว่า “ครม.อิงค์ 2” จุดที่เป็นประเด็นร้อนที่สุด อยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่กลายเป็น "รวมไทยสร้างปัญหา" ซึ่งมีทั้งนอก และในพรรค

ภายนอก "คนนินทา หมาดูถูก" เรื่องยังหน้าด้านหน้าทนร่วมรัฐบาลต่อ ภายในก็แตกเป็นเสี่ยง!

"ขิง" เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และรมว.อุตสาหกรรม ก็ยอมรับเต็มคำว่า “นี่คือประสบการณ์การเมืองที่แย่ที่สุดในชีวิต”

พูดง่ายๆ ก็คือ ศึกนอกก็แรง ศึกในก็แหลม ขยับตัวลำบาก ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยหลัง และแม้เจ้าตัวจะประกาศตัวเป็น "กัปตันเรือกลางมรสุม" แต่ฟังๆ ไปเหมือนจะฝากชีวิตไว้กับคลื่นเสียมากกว่า

เพราะคำเปรียบเปรยเป็น "กัปตันเรือ" ของ "ขิง" ไม่ต่างอะไรกับคำแก้ตัวแก้ต่างของนักการเมือง ที่พลิกลิ้นได้ทุกสถานการณ์
แล้วเหตุผลที่อยู่ต่อ จนกองเชียร์เปลี่ยนใจไปอยู่ฝั่งตรงข้าม... ด้วยเสนอให้ รทสช.ถอนตัวจากรัฐบาล ถ้า "อิ้งค์" ยังเกาะเก้าอี้นายกฯไม่ปล่อย "ขิง" พยายามบอกว่า “ยอมรับว่าตัดสินใจยาก ต้องฟังเสียงประชาชน” แต่ก็แก้ตัวแรงว่า “ถ้าผมทิ้งตอนนี้ คนบนเรือก็ตายหมด”

ส่วนคำถามว่า ทำไม "เอกนัฏ" ไม่ลาออก แล้วไปทำในสิ่งที่ใจต้องการ เอกนัฏ ย้อนถามว่า “แล้วประเทศได้อะไร ผมเข้าใจ แต่ถ้าวันนี้ไม่มีรัฐบาล ในการแก้ปัญหาต่างๆ แล้วมันใช่หรือ สำหรับผม เราต้องมีความรับผิดชอบตรงนี้อยู่”

งานนี้ทำเอาชาวเน็ตสะอึก หรือสะอิดสะเอียน ก็ไม่รู้แน่


ด้าน "เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่พอใจต่อการที่พรรคเพื่อไทย ยังยืนยันที่จะให้ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ในรัฐบาลตามเดิมต่อไป

“เสี่ยเฮ้ง” บอกว่า กลุ่ม 18 ที่ยังสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความรู้สึกไม่สบายใจ ในเรื่องการปฏิบัติตัวของ “พีระพันธุ์” และมติพรรคที่ออกไปก่อนหน้านี้ ในการขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง

อีกทั้งยังมีการเคลื่อนไหวของ สส.ชุมพร 3 ราย และสส.บัญชีรายชื่อ 2 ราย ที่ออกมากดดัน อยากให้ประชาชนไปตัดสินใจในประเด็นนี้เอง

“สุชาติ” ยังระบุว่า พฤติกรรมของ “กลุ่มพีระพันธุ์” ที่กลับไปกลับมา ไม่ชัดเจนของกลุ่มตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า "อิ๊งค์ 2" บรรดาหัวหน้า-เลขาฯ ยังได้ดีแบบนี้ไม่ต่างกับ "เด็กเกเร แต่ยังได้อมยิ้ม"

เล่นเอาหลายคนในกลุ่มเสี่ยเฮ้ง ตั้งคำถามว่า ตกลง "อิ๊งค์" ให้รางวัลกับคนที่มีพฤติกรรมแบบไหน?

“เสี่ยเฮ้ง” ยังยิงหมัดฮุคอีกชุดจากปาก ว่า “พวกเราทำตัวเป็นเด็กดี แต่พวกเด็กเกเรกลับได้ตำแหน่ง” ฟังดูแล้วเหมือนประชด แต่เจ็บจริง

สุดท้ายสรุปว่า รทสช.ชั่วโมงนี้ จบทั้งคน จบทั้งพรรค ไม่เชื่อก็ลองไถฟีตในโซเชียลฯ ดู ชาวเน็ตหลายคนเขาบ่นเสียดายที่ไม่มีปุ่มกดถุยยย!


++ ครม.ใหม่โฟกัสความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง สถานการณ์โลก ยิ่งสำคัญ แต่ยังใช้คนหน้าเดิม

หลังจากที่อกสั่นขวัญแขวน เรื่อง “คลิปหลุด” มาตลอดสัปดาห์ โดยที่ ไม่มี “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็นพ่อ ไม่โผล่หน้าออกมาช่วยเหลือเลย

ตอนนี้ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร เริ่มหายใจได้ทั่วท้อง เมื่อพรรคร่วม ช่วยกันอุ้มให้เดินหน้าต่อไป

เช็กเสียงแล้ว “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกว่า มีตุนไว้แล้ว นับจำนวนมือตอนนี้ก็มี 263-280 ไม่ถือว่า “ปริ่มน้ำ”แล้ว

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) “นายกฯอิ๊งค์” จึงให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจว่า การปรับครม.ลงตัวดี ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการส่งชื่อเข้าตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ส่วนตัว “นายกฯอิ๊งค์” เอง ก็ชัดเจนว่าจะไม่ควบ รมว.กลาโหม ตามที่มีกระแสข่าว แต่ยังอุบว่าคู่แคนดิเดตระหว่าง “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กับ “พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์” อดีต ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ใครจะเข้าวิน พร้อมกับย้อนถามว่า ทำไมจึงดูสนใจกระทรวงกลาโหมเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้วรายชื่อรัฐมนตรีตามโผ พบว่าหลายคน ทั้งคนเก่า คนใหม่ มีประเด็นชวนให้ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องหวาดเสียวเหมือนกัน เพราะมีทั้ง “นักเลงหัวไม้-นักเลี่ยงกฎหมาย” มีเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับคุณสมบัติ ที่ต้องตรวจตรากันเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอย “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกฯ ที่ถูกถอดถอน เพราะตั้ง “ทนายถุงขนม” เป็นรัฐมนตรี

ดังนั้น ขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ รัฐมนตรีที่กำกับดูแล “กระทรวงเศรษฐกิจ” ส่วนใหญ่ยังเป็นหน้าเดิม ฝีไม้ลายมือในการบริหารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็แทบไม่มีใครสอบผ่าน เห็นชัดๆ ก็เรื่องปากท้อง เศรษฐกิจฝืดเคือง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ยิ่งมีสถานการณ์โลก ที่กำลังเสี่ยงภาวะสงคราม ราคาน้ำมั้น ภาษีสหรัฐฯ ก็ยังแก้ไม่ตก

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจให้ทรุดหนักทั้งสิ้น


ดูตามโผ รัฐมนตรีใหม่ที่จะมาคุมกระทรวงพาณิชย์ก็คือ “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ตามปูมประวัติ “จตุพร” จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร (การปกครอง) และปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การทำงานเติบโตมาในสายปกครองที่กระทรวงมหาดไทย ก่อนจะย้ายข้ามห้วยไปเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

ในช่วงที่ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย เกษียณ ก็มีชื่อ“ปลัดตุ๋ม” ว่าจะย้ายกลับมานั่ง ปลัดมหาดไทย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป ต้องอยู่ที่เดิม และได้รับการต่ออายุในตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึง 2 ครั้ง โดยจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 68นี้

นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืนในบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ด้วย

ก็ต้องมาดูกันว่า ฝีมือการบริหารเศรษฐกิจ ของนักปกครอง จะเป็นอย่างไร

ในภาพรวม นอกจากรัฐมนตรีใน “ครม.อิ๊งค์2” จะน่าเป็นห่วงแล้ว ตัว “นายกฯอิ๊งค์” เองน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า

เพราะจากกรณี “คลิปเสียงขายชาติ” นี้ ทำให้ประชาชนออกมาร่วมแสดงพลังขับไล่ มีการนำเรื่องร้องเรียนไปที่ กกต. ว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ... ร้องไปที่สำนักงาน ป.ป.ช. ว่า มีการกระทำที่ผิดจริยธรรมร้ายแรง และยังมี สว.เข้าชื่อกัน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณา ถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ล่าสุด คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว

ส่วนทางศาลรัฐธรรมนูญ “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าเรื่องที่ สว. ยื่นถอดถอนมานั้น อาจจะนำเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาในวันที่ 1 ก.ค.นี้

ส่วนจะมีคำวินิจฉัย มีการลงมติ หรือมีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นเลยหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ เพราะต้องพิจารณาว่า ถ้าให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น บ่ายวันที่ 28 มิ.ย.นี้ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” นัดชุมนุมใหญ่ ขับไล่ “อิ๊งค์” ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมหลักแสน

นับว่า อิ๊งค์” ต้องเจอด่านสกัดอีกหลายด่าน

ก็ต้องมาติดตามกันว่ารัฐนาวา ที่บรรดานักการเมือง นักเลือกตั้ง ลงมาร่วม “พายเรือให้คนขายชาตินั่ง” จะไปได้สักกี่น้ำ