โฆษก ทบ.พร้อมปกป้องอธิปไตย โต้เขมร 4 ขัอ ยันปราสาทตาเมือนธม อยู่เขตไทย ยึดโยงหลักฐานภูมิศาสตร์ ราชการดูแลยาวนาน หลังเขมรไม่จบปมนักปั่นจักรยานไปเยือน อ้างยุทธแผนที่ 1 : 200000 ของเขมร ยันแจ้งแล้วว่าจะจัด ยึดหลักสื่อสารข้อเท็จจริง
วันนี้ (23 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่คณะนักปั่นจักรยานชาวไทยเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม
โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ประเด็นเรื่องอธิปไตยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยึดโยงกับหลักฐานภูมิศาสตร์และการบริหารพื้นที่โดยหน่วยงานราชการไทยอย่างต่อเนื่อง
2. ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดข้อตกลงและการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงที่มีอยู่ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน
กองทัพบก ขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยเคารพต่อข้อตกลงและแนวทางความร่วมมือที่มีมาโดยต่อเนื่องเสมอมา ซึ่งที่ผ่านมากรณีที่มีข้อขัดแย้งในระดับพื้นที่ มักได้รับการแก้ไขผ่านกลไกหารือร่วมกันในพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลให้หลายปัญหาคลี่คลายด้วยดี
อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา กลับพบว่าฝ่ายกัมพูชา มีท่าทีลดความร่วมมือในการใช้กลไกความร่วมมือในลักษณะเดิมลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางที่สร้างสรรค์ดังกล่าวอย่างเสมอมา
3. ประเด็นเรื่องการแจ้งล่วงหน้าแก่ฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชา ปฏิเสธว่าไม่ได้รับการแจ้งใดๆ จากฝ่ายไทยก่อนนำคณะนักปั่นเข้าพื้นที่ ทั้งในช่องทางวาจาหรือทางราชการ
ในเรื่องนี้ กองทัพบก ขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้มีการแจ้งข้อมูลต่อชุดประสานงานของฝ่ายกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในพื้นที่แล้วล่วงหน้า
ทั้งนี้ การเข้าเยี่ยมชมของประชาชนไทยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สามารถเข้าเที่ยวชมโดยเสรี โดยไม่กำหนดเวลา สำหรับข้อตกลงเรื่องเวลาและเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมชมปราสาทนั้น ได้มีการตกลงกันไว้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งฝ่ายไทยได้อนุโลมให้ขึ้นมาท่องเที่ยวได้ในช่วงเวลา 09.00-15.00 น. พร้อมกันนั้น ทั้งสองฝ่ายยังตกลงร่วมกันให้จัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวฝ่ายละไม่เกิน 5 คน
4. ประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชา กล่าวหาว่า โฆษกกองทัพบกไทย ให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการกล่าวถึงปัญหาบางส่วนอาจมีต้นตอมาจากความสัมพันธ์ภายในของกองทัพกัมพูชาเอง
“กองทัพบก ขอยืนยันว่า การสื่อสารเพื่อให้สังคมได้รับทราบต่อกรณีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปตามข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีที่ปรากฏ และไม่ได้มีการปกปิด หรือหาเหตุที่จะใช้เพื่อเบี่ยงเบนความผิดพลาด ในเรื่องมีการละเมิดข้อตกลงระหว่างกัน อย่างที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด”
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า กองทัพบกจะปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างดีที่สุด ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามกลไกของรัฐบาล
พร้อมทั้งยึดหลักการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ใช้กลไกความร่วมมือ และเคารพกติกาสากลอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาเสถียรภาพและสันติภาพตามแนวชายแดนร่วมกันอย่างยั่งยืน