xs
xsm
sm
md
lg

“อิ๊งค์” เป็นเจ้าภาพเรียกทัวร์นานาชาติฟันเขมร ห้ามบุคคล-รถยนต์-เข้าออกเล่นพนันชายแดน-งดบินลงเสียมราฐ ลั่น 3 เดือนเห็นผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ประกาศเป็นเจ้าภาพ เรียกทัวร์นานาชาติ ฟัน อาชญากรรมข้ามชาติ งัดยาแรง 5 ด้าน โต้ กัมพูชา ห้ามบุคคล-รถยนต์-เข้าออกเล่นพนันชายแดน พร้อมเข้มเครื่องบินลงเสียมราฐ ลั่น 3 เดือน ต้องเห็นผลมาตรการตั้งวัด KPI การทำงาน

วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ จากข้อมูลองค์การสหประชาชาติ พบว่า กัมพูชา ถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลก ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีรายได้มูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งยูเอ็นระบุว่า 40-60% ของ GDP กัมพูชามาจากคอลเซ็นเตอร์ และยังมีในเรื่องของการฟอกเงิน ที่ประเทศไทยโดยหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดน จึงได้กำหนดมาตรการดังนี้

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 1. ด้านความมั่นคง จะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการเข้า-ออก จุดผ่านแดน ทั้งการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน 7 จังหวัด ห้ามรถยนต์ และบุคคล เข้า-ออก ยกเว้นในกรณีมีเหตุจำเป็นชัดเจน เช่น นักเรียน นักศึกษา และคนป่วย นอกจากนี้ ห้ามให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเสียมราฐ เพื่อไปเล่นการพนัน


2. ด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลฯ โดยศูนย์ AOC จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้า และเส้นทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด รวมถึงการระงับการบริการอินเทอร์เน็ต และประตูอินเทอร์เน็ตใต้น้ำ ที่ไปยังหน่วยงานทางการทหาร และความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการสร้างมาตรการคว่ำบาตรผู้ที่เป็นอาชญากรข้ามชาติ ที่พบว่ามีการฟอกเงิน รวมถึงการยึด หรืออายัดทรัพย์สินที่โยกย้ายไปต่างประเทศ

3. ด้านการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าผ่านชายแดน ต้องระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาถึงความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา ที่จะนำเอาไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยจะเห็นได้ชัดว่าตั้งแต่มีมาตรการในเรื่องตัดไปและอินเตอร์เน็ต ทำให้ตัวเลขคอลเซ็นเตอร์เสียหายประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่เห็นเคสที่คนไทยโทรไปแจ้งเรื่องการเกิดคอลเซ็นเตอร์ มีตัวเลขที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา และเรื่องอาชญากรรมต่างๆที่ย้ายถิ่นฐานจากเมียนมา เข้าไปที่กัมพูชา เราต้องมีมาตรการเรื่องนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อที่จะปราบปรามและป้องกันในเรื่องของคนไทยจะถูกหลอกในอนาคตข้างหน้าด้วย 

4. ด้านการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดยขอความร่วมมือกับภาครัฐ และภาคเอกชนในการรับซื้อสินค้า

และ 5. ด้านการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศ จะประสานกับประเทศต่างๆ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการร่วมในภูมิภาค


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตน ได้ให้ทุกภาคส่วนในการกำหนดไทม์ไลน์ และตั้งประเมินผล (KPI) ในการดำเนินมาตรการอย่างชัดเจน โดยขอให้ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ สถิติการแจ้งความของคนไทย ความเสียหาย การยึดทรัพย์ และการดำเนินคดีเครือข่าย จะต้องเห็นผลลดลงอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลขอย้ำว่าให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และต้องเร่งแก้ไขให้หมดไปโดยเร็ว รวมถึงให้มีการสื่อสารที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการที่ออกมาแบบนี้ นักธุรกิจไทยในกัมพูชา ควรปฏิบัติตัวอย่างไรนายกฯกล่าวว่า เราสนับสนุนผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมา กัมพูชา ประกาศไม่รับน้ำมันซึ่งเป็นเรื่องของชายแดน แต่ถ้าลุกลามมากขึ้นทางกัมพูชาต้องกำหนดราคาน้ำมันของเขา หากไม่รับจากไทยก็จะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ตกอยู่กับประชาชนกัมพูชาและคนไทยที่อยู่ตรงนั้นได้

เมื่อถามว่า ได้สำรวจธุรกิจอื่นที่คนไทยลงทุนในกัมพูชา จะได้รับผลกระทบหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำรวจหมดอยู่แล้ว โดยธุรกิจของไทยส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโรงแรมที่อยู่บริเวณตัวเมืองขณะที่ชายแดนยังไม่มีผลกระทบกับคนไทย ส่วนฝั่งเราเป็นเรื่องของเกษตรกรและเอกชนที่พร้อมที่จะซัพพอร์ตตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มอบหมายทหารเรื่องการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ กับทหาร หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มอบหมายเรียบร้อยแล้ว หากหน้างานเกิดอะไรขึ้น จะให้ทหารเป็นคนดูแลว่าจะปิดหรือจะเปิดอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า มีตัวเลขที่คนไทยถูกหลอกลวง ทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่าเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ทางผู้ที่เป็นสแกมเมอร์จะเสียหาย 30,000 ล้านบาท ขณะที่ของไทย จะได้รับความเสียหายวันละ 80 ล้านบาท




กำลังโหลดความคิดเห็น