xs
xsm
sm
md
lg

“อิ๊งค์” ถกแก้อาชญากรรมข้ามชาติ เล็งกดดันเขมรเพิ่ม เย้ยเสียรายได้ 3 หมื่นล้าน หลังไทยเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ นั่งหัวโต๊ะติดตามแก้อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำ UN ประกาศกัมพูชาเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ส่งผลไทยต้องเพิ่มมาตรการเข้ม เผย รายงานเขมรเสียรายได้ 3 หมื่น ล. หลังไทยเด็ดขาด สะท้อนเพิ่มความปลอดภัย ปชช. วอนช่วยเป็นหูเป็นตา รบ.หวังให้คนไทยอยู่อย่างอบอุ่น ปลอดภัย

วันนี้ (23 มิ.ย.) เวลา 13:30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และตัวแทนกองทัพ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณที่มาประชุมกันวันนี้ และพร้อมรายงานในหัวข้อต่างๆ อย่างที่ทราบกันดีปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้างอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงความเชื่อมั่นของประเทศในระดับนานาชาติด้วย เราได้ดำเนินการเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง เห็นผลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปราบปราม Call Center หรือมาตรการต่างๆ ที่เราทำอย่างเด็ดขาด ส่งผลทำให้คดีการฟ้องร้อง Call Center ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และตามที่สหประชาชาติได้มีข้อสรุป กัมพูชาเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อันนี้ทราบดีอยู่ว่าเราคงต้องเพิ่มมาตรการเรื่องนี้ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น เพราะเป็นศูนย์รวมอยู่แล้วและเราก็ทราบว่ามีคดีมากมาย ศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลกมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก ซึ่งต้องเน้นย้ำเรื่องนี้โดยเฉพาะ เรามีชายแดนที่มีปัญหาก็ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด ถ้ามีคดีไหนที่รู้สึกว่าจะสามารถต่อยอดไปได้อีก ก็ต้องสกัดกั้นทุกวิธีทางให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงตลอดจนกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มข้น ทำให้ตัวเลขทุกอย่างลดลงทุกมิติ

“ซึ่งตัวเลขสรุปล่าสุดจากการรายงานบอกว่าแถวกัมพูชาเสียรายได้ไปโดยภาพรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท คงเป็นสิ่งที่กระทบต่ออาชญากรรมข้ามชาติตรงนั้นอย่างมาก ฉะนั้น เรื่องนี้ขอให้ทำต่อเนื่อง เราจะไม่หยุดแค่นี้ จะทำเรื่องการปราบปรามให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น การที่เขาเสียรายได้มากเท่าไหร่ ก็แปลว่าประชาชนของเราปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้น เราต้องทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งความตั้งใจของรัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยและประชาชนอยู่ในบ้านที่อบอุ่น อยู่ในประเทศของเราอย่างปลอดภัย ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชน ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง จากตัวเลขที่รวบรวมอยู่แล้ว ก็ให้ลดลงไปเรื่อยๆ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนอย่างมาก” นายกฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น