“บัญญัติ” ค้าน ปชป.ร่วมรัฐบาลแพทองธารต่อ ย้ำ รัฐบาลอยู่ยาก แก้ ศก.พลาด ความเชื่อมั่นตกต่ำ แนะถอนตัว เพื่อตั้งหลัก ฟื้นศรัทธาพรรค เสนอทางออกประเทศเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ระงับขัดแย้งปมการเมืองไม่ให้บานปลาย
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีมติของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ปชป.มีมติเสียงข้างมาก 19 ต่อ 7 ให้ร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต่อว่า ทันทีที่มีการเผยแพร่รายชื่อ 7 กก.บห.ที่ลงมติไม่เห็นด้วย และไม่มีชื่อของ นายชวน หลีกภัย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และชื่อตน ทำให้สมาชิกพรรคและแฟนคลับพรรค ปชป. จำนวนมากเข้าใจผิดว่า เราทั้ง 3 เห็นด้วยกับการอยู่ร่วมรัฐบาล จึงขอชี้แจงทำเข้าใจให้ถูกต้องว่า เราทั้ง 3 คนไม่ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าว เพราะเป็นการประชุมเฉพาะของ กก.บห.พรรคเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสส.หรือสมาชิกคนอื่นๆ ของพรรค
นายบัญญัติ กล่าวย้ำว่า ตนยังไม่เพี้ยน ถ้าจะถามความเห็นของนายชวน นายจุรินทร์ และตนสามารถตอบได้ทันทีว่า ไม่เห็นด้วย และยังเห็นตรงกันกับ กก.บห.พรรค ปชป. 7 คน ที่คัดค้านการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ตนได้แสดงความเห็นเช่นนี้ไปก่อนหน้านั้นแล้ว โดยตนพยายามเสนอแนะผ่านผู้เกี่ยวข้องบางคนว่า พรรค ปชป.ควรใช้โอกาสนี้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอยู่ต่อไปก็ไม่สามารถทำประโยชน์ได้มากนัก เราควรถอยออกมาตั้งหลักเพื่อคิดอ่านในการฟื้นฟูพรรค ปชป.จะเหมาะสมกว่า เพราะรัฐบาลแพทองธาร คงเดินหน้าต่อไปได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และผลสำรวจความเชื่อมั่น ที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งหนักขึ้นเมื่อเกิดกรณี “พายุหมุนขนาดใหญ่” จากบทสนทนาระหว่างนายกฯแพทองธารกับผู้นำเขมรเพื่อนพ่อที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่สาหัสสากรรจ์มาก แม้จะมีการอ้างภายหลังว่าเป็น เทคนิคในการเจรจา แต่จากเนื้อหาที่ถูกเปิดเผย กลับแสดงให้เห็นว่า เกินกว่าเทคนิคทางการทูตอย่างชัดเจน มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ และอ่อนข้อเกินสมควรจนกระทบต่อศักดิ์ศรีของประเทศ
”เหตุการณ์นี้นำมาสู่การตั้งคำถามถึงภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี และเสียงเรียกร้องให้ลาออก ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป ก็มีแต่จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ โดยเฉพาะเมื่อประชาชนหมดศรัทธาต่อรัฐบาล การฟื้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาของประเทศก็จะเป็นไปได้ยาก และที่อันตรายแน่นอน ความยืดเยื้อยาวนานของสถานการณ์ที่ไม่ลงตัว และที่ขับเคี่ยวกันอยู่ ก็มีแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ในประเทศอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้ ผมยืนยัน ว่า การลาออกของนายกรัฐมนตรี หรือพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการคืนสมดุลให้กับการเมืองไทย นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างมีเกียรติแล้ว ยังจะช่วยให้ได้รัฐบาล ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น ส่งผลให้สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ดีกว่าเดิม และอาจช่วยระงับความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้บานปลาย ผมจึงเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาอุดมการณ์ และฟื้นฟูศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรค“ นายบัญญัติ กล่าว