ภาคประชาชนจากหลายสีเสื้อรวมพลังเรียกร้อง “แพทองธาร ชินวัตร” ลาออกทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที ชี้ชัดคลิปเสียงสนทนา “ฮุนเซน” นายกฯ ทำผิดอย่างร้ายแรง ฝ่าฝืน รธน.ม. 3, ม.5 สมคบคิดตอบสนองความต้องการของอริราชศัตรู แสดงคำพูดว่าเป็นฝ่ายเดียวกับศัตรู ทรยศคนไทย ขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
วันนี้(20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ภาคประชาชนรวมได้ร่วมกันแถลงข่าว “รวมพลังแผ่นดิน” ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง โดยมีเนื้อหาสำคัญคือการอ่านแถลงการณ์ โดยตัวแทนคือนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ดังนี้
วันนี้สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย นับแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึง ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าบรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมืองการปกครองเศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คุณธรรม จริยธรรม และสังคม อย่างกว้างขวาง ลึก รุนแรง เหตุจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนักรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล และยังมีขบวนการประกอบด้วยกลุ่มบุคคลจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายทุนผูกขาดเหนือตลาดเหนือรัฐ ฝ่ายความมันคง เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบ ตลอดถึงบุคคลที่อาศัยตำแหน่งอำนาจหน้าที่แอบอ้างร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม จริยธรรม และเอกราชอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติและประชาชน ทำลายหลักป้องกันตรวจสอบ และขจัดทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรง ใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ
พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาประชาชนคนไทยทั่วทั้งแผ่นดินต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าบรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม
ที่เลวร้ายที่สุดคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ได้กระทำการในลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มีพฤติการณ์ตามที่เป็นข่าวสาธารณะในเชิงสมคบคิด และแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางตอบสนองความต้องการของอริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคำพูด ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรูที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำ ละเมิดอำนาจอธิปไตย ยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนคนไทย และขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน แม้ปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดตามข่าวสาธารณะ และการยอมรับของนายกรัฐมนตรี บรรดาคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยังคงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จึงอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการกับนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา กระทำการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน
เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และความมั่นคง อำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที เพราะสิ้นความชอบธรรมแล้ว
ขอเรียกร้องเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนร่วมมือร่วมใจ สามัคคี ลดเงื่อนไขความขัดแย้ง รวมกันเป็นพลังแผ่นดิน แสดงตนให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที พร้อมทั้งเป็นขวัญกำลังใจร่วมยืนเคียงข้างทหารทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินและอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมันคง และร่วมกันปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย และประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย โดยยึดถือหลักศีลธรรม หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อันจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาจนเกิดความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศสืบไป
หลังจากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้ประกาศนัดหมายว่าในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. ขอให้ประชาชนมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้กล่าวสรุปตอนท้ายว่า จากคลิปเสียงและการปฏิบัติของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการกระทําการที่ขัดจริยธรรมในการดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว สิ่งที่ปรากฏอยู่ในคลิปเสียงที่เป็นเนื้อหานั้นแสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติแน่นอน ดังนั้นถ้าใครยังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนถือว่าได้เข้าร่วมเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติด้วย จึงได้สรุปมาเป็นสาระ 3 ข้อเท่านั้น
ประการที่ 1 ประชาชนทั้งหมดที่มาร่วมในวันนี้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที
ประการที่ 2 เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกทันที และ
ประการที่ 3 เรียนเชิญพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าทุกสีเสื้อ ทุกอายุ ร่วมกันสําแดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย ยืนอยู่ข้างประเทศไทยฝ่ายเดียวกันร่วมกันสามัคคีในการปกป้องแผ่นดิน ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 ขอเวลา 5 ชั่วโมง 4 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม รวมพลังสําแดงพลังในการรักชาติรักแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยของชาติ กําจัดอริราชศัตรูพร้อมกันพร้อมเพรียงกัน ด้วยการแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติไทย คือธงชาติไทย ไม่ว่าเสื้อสีธงชาติไทย ธงชาติไทยไป สําแดง พลังกันให้มากกว่าการจัดตั้งจากฝ่ายกัมพูชา
“ขอรวมพลังกันครั้งนี้เป็นพลังแห่งความสามัคคีในการปกป้องอธิปไตยของราชจากไทยและทวงคืนแผ่นดินไทยที่ถูกรุกล้ำมาทั้งหมดให้เป็นของราชอาณาจักรไทย ขอบคุณครับ”นายปานเทพ กล่าว
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้มีตัวแทนภาคประชาชนจากหลากหลายกลุ่ม อาทิ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพิชิต ไชยมงคล นายสมชาย แสวงการ นายประพันธ์ คูณมี นายวีระ สมความคิด นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นายแก้วสรร อติโพธิ นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายเจษฎ์ โทณะวณิก นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายประสาร มฤคพิทักษ์ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พล.ท.กนก เนตระคเวสนะ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา นายถวิล เปลี่ยนศรี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นายคมสัน โพธิ์คง นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายนัสเซอร์ ยีหมะ นายใจเพชร กล้าจน นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายวสันต์ สิทธิเขตต์ นายอมร อมรรัตนานนท์ น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊หฤทัย) เป็นต้น