“วันนอร์” อ้างเสียงปริ่มน้ำ สภาหลายยุคก็ยังก็เดินหน้าได้ แต่อายุรัฐบาลจะยาวหรือสั้นอยู่ที่ฝ่ายบริหาร ยันคนนอกบัญชีชื่อไม่มีสิทธิชิงเก้าอี้นายกฯ แต่ “บิ๊กป้อม” ยังมีลุ้น ระบุ งวดนี้ สว.ไม่มีสิทธิร่วมโหวต เตรียมเลือกรอง 2 โดยเร็ว มาแบ่งเบาหน้าที่
วันที่ 20 มิ.ย. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่เสียง สส.ในสภา ของฝ่ายค้านและรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยน ว่า การเมือง ก็เปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง แต่สภามีหน้าที่ในการจัดการประชุม ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนคิดว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็คง เปลี่ยนแปลงในส่วนของรัฐบาล และสภาก็ต้องดำเนินการไปตามปกติ
เมื่อถามว่า เสียงปริ่มน้ำ จะทำให้การทำงานในสภาลำบากขึ้นหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สภาเราเคยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งที่มีเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด เวลาบริหาร ก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน และเสียงปริ่มน้ำ ก็เคยบริหารมาแล้ว ซึ่งก็มีปัญหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร สภาทำหน้าที่ของสภา เพื่อให้การบริหารดำเนินไปได้
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าอายุรัฐบาลหรือสภาอาจจะสั้น ไม่เกินปีนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทางสภาก็บริหาร ไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาเท่านั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อายุของรัฐบาลจะยาวหรือสั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร
เมื่อถามว่า จะมีคำแนะนำให้นายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศเกี่ยวกับประเด็นปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติ และประธานสภา ไม่สามารถ เข้าไปก้าวก่าย เรื่องการบริหารของรัฐบาลได้เพราะต้องฟังเสียงประชาชน เพื่อที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศ ตนคิดว่าฝ่ายที่ดูแล และเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ รวมทั้ง รัฐบาลคงจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เมื่อถามย้ำว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา จะมีการหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมสภาหรือไม่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ยังไม่สามารถที่จะนำมาหารือในสภาได้ ดังนั้น ในช่วงเปิดสมัยประชุม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ตนคิดว่าประเด็นต่างๆ รวมทั้งปัญหาในประเทศ และปัญหาระหว่างประเทศ คงจะมีสมาชิก ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล มาเสนอให้สภาอภิปราย ซึ่งโดยปกติ เราก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสามัญก่อน ส่วนถ้ามีความสำคัญ ถึงขนาดรัฐบาลเห็นว่า ควรจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ นั้นก็แล้วแต่ รับเป็นอำนาจของรัฐบาล
เมื่อถามถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ว่างลง หลัง นายภราดร ปริศนานันทกุล ลาออก นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะฟังเสียงจากวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่า พร้อมกำหนดการเลือกเมื่อใด ซึ่งเรื่องนี้ ต้องเป็นเรื่องของสมาชิกสภา เพราะถ้าไม่พร้อมหรือยังไม่ตกลงใจว่า ฝ่ายใดจะเสนออย่างไร ก็คงจะต้องรอก่อน ตนคิดว่า เมื่อเปิดสมัยประชุม ในวันที่ 3 กรกฎาคม หากมีความพร้อม ก็สามารถเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้แต่หากไม่พร้อมอาจจะเป็นสัปดาห์ที่ 2 เพราะต้องเลือกเดินเร่งด่วน เนื่องจากรองประธานคนที่ 2 จะมาช่วยในการบริหารสภา และเป็นประธานในที่ประชุม รับประธานทั้ง 2 คน ก็อาจจะหนักไป
ส่วนจะเป็นโควตาของพรรคลำดับ 2 ของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องโควตาเป็นเรื่องภายในวิป แต่ข้อเท็จจริงคือต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นคนเลือก จะมีการเสนอแข่งขันหรือมีเพียงชื่อเดียวก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่ครั้งที่แล้วมีการเสนอเพียงชื่อเดียว หากมีการเสนอ 2 คนต้องมีการลงคะแนน
เมื่อถามว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านยังเปิดได้อยู่หรือไม่ ในสมัยการประชุมหน้า นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า ทำได้
ส่วนถ้าจะต้องมีการต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ รายชื่อนายกรัฐมนตรีเดิม ของพรรคการเมืองที่มียังสามารถใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังคงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 คือ ต้องเป็นรายชื่อที่เคยเสนอต่อ กกต.แล้ว และยังมีชื่อค้างอยู่หลายคน ซึ่งต้องเอาชื่อนั้นมาเสนอ หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เป็นการเลือกเฉพาะ สส. จะไม่มี สว.มาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเหมือนครั้งก่อน เพราะมาตรา 272 ที่ให้ สว. ร่วมเลือกนายกฯได้หมดวาระ 5 ปีไปแล้ว
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐที่มีจำนวน สส.ลดลงเหลือไม่ถึง 25 คน ยังสามารถใช้บัญชีแคนดิเดตเดิม คือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ได้ หากมีรายชื่อที่ให้ไว้กับกกต.ก่อนเลือกตั้งอยู่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็เสนอให้สภาโหวตได้
เมื่อถามว่า ต้องกลับไปถามความสมัครใจของแคนดิเดตแต่ละคนด้วยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พรรคไหนเสนอใครขึ้นมาก็ต้องมีการถามก่อนอยู่แล้ว ว่ามีความเต็มใจ ในการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เมื่อถามแล้วก็มาเสนอสภาตามรายชื่อเดิมที่มีอยู่
ส่วนจะเสนอรายชื่อคนนอกบัญชีแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก่อนเลือกตั้งเราใช้ บัญชีรายชื่อนี้เพื่อให้ ประชาชน ตัดสินใจว่าถ้าเลือกพรรคนั้นคนนั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นก็ต้องให้ความเคารพ ความคิดเห็นของประชาชน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วบทบัญญัติข้อนี้ไม่ได้ยกเลิกไป ยังใช้บัญชีเดิมซึ่งยังมีอยู่หลายคน