xs
xsm
sm
md
lg

เปิดหนังสือ “หมอตุลย์” ร้อง ป.ป.ช.สอบสวน “ทวี” และคณะ เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” ได้พักโทษโดยมิชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 8 ปี จากคดีการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่จำนวน 4 คดี ก่อนจะได้รับพระทานอภัยโทษลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี นั้น นอกจากมีความไม่โปร่งใสเรื่องการออกไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว ยังมีประเด็นการที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษ ออกจากโรงพยาบาลตำรวจกลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 โดยไม่ถูกต้องอีกด้วย

ในเรื่องนี้ นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สอบสวน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไว้แล้วตั้งแต่ ตามหนังสือ ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ตามรายละเอียดในหนังสือ ดังนี้

เรื่อง ร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีการพิจารณาพักโทษนักโทษเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร

เรียน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

สิ่งที่ส่งมาด้วย
1. พระบรมราชโองการ พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ ให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 140 ตอนที่ 40 ข หน้า 1 ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566
2. พระราชบัญญัติ ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 52
3. กฎกระทรวงกําหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขของนักโทษเด็ดขาด ซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจําคุก หรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 (หมวด 6)
4. กฎกระทรวงกําหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขของนักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับ การลดวันต้องโทษจําคุก หรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564
5. ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการ ลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไป

ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ได้มีคําพิพากษาสั่งจําคุก นายทักษิณ ชินวัตร จาก 3 คดี เป็นเวลา 8 ปี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 แล้วนั้น ต่อมา นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ได้ยื่นถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจําคุกต่อไปอีก 1 ปี ปรากฏว่า นักโทษเด็ดขาด ชายทักษิณ ชินวัตร เข้าไปโทษในเรือนจําได้เพียง 1 วัน ก็มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง ต้องส่งตัวออกมารับการรักษาที่ โรงพยาบาลตํารวจโดยไม่มีการส่งตัวกลับเรือนจําอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีคําสั่งให้ นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ โดยให้เหตุผลว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มีอายุ เกิน 70 ปี และมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง เข้าเงื่อนไขตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (3), (4) และ (5)

ข้าพเจ้าได้พิจารณาในรายละเอียดของพระราชบัญญัติ ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2562 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมี เหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไป แล้วพบว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ไม่น่าเข้าเงื่อนไขตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ให้เหตุผลไว้ในคําสั่งการพักโทษดังกล่าวนั้น

ข้าพเจ้า จึงขอร้องเรียนบุคคลและกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ :-
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง)
2. ปลัดกระทรวงยุติธรรม (นางพงษ์สวาท และโยธิน)
3. รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์)
4. ผู้บัญชาการเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร (นายนัสที ทองประหลาด)
5. คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ
5.1 ปลัดกระทรวงยุติธรรม ประธานอนุกรรมการ
5.2 รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย อนุกรรมการ
5.3 อธิบดีกรมคุมประพฤติ อนุกรรมการ
5.4 อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อนุกรรมการ
5.5 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อนุกรรมการ
5.6 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุกรรมการ
5.7 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อนุกรรมการ
5.8 ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข อนุกรรมการ
5.9 ผู้แทนสํานักงานศาลยุติธรรม อนุกรรมการ
5.10 ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด อนุกรรมการ
5.11 ผู้แทนสํานักงานตํารวจแห่งชาติ อนุกรรมการ
5.12 ผู้แทนกรมการปกครอง อนุกรรมการ
5.13 ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อนุกรรมการ
5.14 รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ทํากับดูแลส่านักทัณฑปฏิบัติ อนุกรรมการ
5.15 ผู้อํานวยการสํานักทัณฑปฏิบัติ อนุกรรมการและเลขานุการ
5.16 ผู้อํานวยการส่วนพักการลงโทษ สํานักทัณฑปฏิบัติ อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
5.17 หัวหน้าฝ่ายพักการลงโทษที่ได้รับมอบหมาย จากผู้อ่านวยการสานักทัณฑปฏิบัติอีกหนึ่งคน อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

ทั้งนี้ขั้นตอนการพิจารณาพักโทษนักโทษเด็ดขาดผู้ใดก็ตาม ผู้บัญชาการเรือนจําที่นักโทษอยู่ในเงื่อนไขสามารถรับการพิจารณาพักโทษได้ รวบรวมข้อมูลของนักโทษที่เกี่ยวข้องเสนอให้คณะอนุกรรมการเพื่อ พิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ในกรณีพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิศษ กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอบัญชีรายชื่อ ผู้ที่อนุกรรมการฯ มีมติปล่อยตัวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาอนุมัติการพักการลงโทษ กรณีมี เหตุพิเศษ

แม้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร จะมีอายุเกิน 70 ปี แล้ว แต่ตามประกาศฯ (สิ่งที่ส่งมาด้วย 5) นักโทษเด็ดขาดที่จะได้รับการพักการลงโทษจะต้องเป็นผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือช่วยเหลือตัวเองได้ น้อย แต่ในความจริงนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร จึงไม่เข้าข่ายจะได้รับการพิจารณาพักโทษด้วยเกณฑ์ดังกล่าวนี้

ส่วนนักโทษเด็ดขาดที่จะได้รับการพิจารณาพักโทษในกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วย ร้ายแรง คณะอนุกรรมการฯ ต้องพิจารณาถึงอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป็นผู้ป่วยที่ ต้องการการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หรืออยู่ในภาวะวิกฤตเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือก่อให้เกิดความพิการ ไม่สามารถดําเนินชีวิตประจําวันได้ด้วยตนเอง เป็นผู้ป่วยที่มีภาวะติดเตียง เป็นภาวะให้ผู้อื่นดูแล หรืออยู่ในภาวะ พึ่งพิง (Dependent) โรคไตระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ไตวายเรื้อรังที่มีการล้าง ไตทางช่องท้อง (peritoneal dialysis) โรคมะเร็งระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจาย โรคเอดส์หรือภูมิคุ้มกัน บกพร่องระยะมีโรคแทรกซ้อนแสดงอาการร้ายแรง อัลไซเมอร์/สมองเสื่อม สมองพิการ อันอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต หรือก่อให้เกิดความพิการ ซึ่งการถูกคุมขังในเรือนจําจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทําให้เกิดอันตราย และทําให้มีโอกาส เสียชีวิตได้ เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพทางร่างกายแล้วมีโอกาสจะกระทําผิดซ้ําน้อย ไม่เป็นอันตรายต่อสังคม ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานจากแพทย์จํานวน 2 คน ได้ตรวจรับรองอาการเจ็บป่วยดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาพักการลงโทษด้วย

แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏต่อสาธารณชน นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เมื่อได้รับการพัก โทษ ก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้ และในวันรุ่งขึ้นสามารถเดินทางไปให้การต่ออัยการในคดีกระทําผิดกฎหมาย อาญามาตรา 112 และพระราชบัญญัติการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง

หรือต้องให้การช่วยเหลือจากแพทย์ อีกทั้งไม่เคยปรากฏว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นโรคร้ายแรงดังกล่าวข้างต้นตามประกาศฯ (สิ่งที่ส่งมาด้วย 5) และไม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่อยู่ในภาวะวิกฤต ที่ หากถูกคุมขังในเรือนจําจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทําให้เกิดอันตราย และทําให้มีโอกาสเสียชีวิตได้

อนึ่ง ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 52 วรรคแรก นักโทษเด็ดขาดผู้ใดหรือคนใด ที่จะได้รับประโยชน์ตามมาตรา 52 (1-8) จะต้องมีความประพฤติดี มีความอุตสาหะ ความก้าวหน้าในการศึกษา และทํางานเกิดผลดี หรือทําความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ ตลอดเวลา 6 เดือน ที่นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับโทษจําคุก ไม่เคยรับโทษในเรือนจําเลย รักษาตัวในโรงพยาบาลตํารวจมาโดยตลอดโดยอ้างว่าเจ็บป่วยซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ และไม่ได้มีกิจกรรมการศึกษา หรือการทํางาน หรือการทํา ความชอบแก่ทางราชการแต่อย่างใด จึงไม่เข้าข่ายที่จะรับพิจารณาพักโทษตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 52 (7) และตามกฎกระทรวงกําหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขของนักโทษเด็ดขาดซึ่ง ได้รับการลดวันต้องโทษจําคุก หรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ข้อ 42 ในกรณีปกตินักโทษเด็ดขาดตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไปอาจได้รับพักการลงโทษไม่เกิน 1 ใน 3 ของกําหนดโทษ ที่ระบุ ไว้ในหมายแจ้งโทษเด็ดขาด ดังนั้นเมื่อนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัย ลดโทษเหลือโทษจําคุก 1 ปี ดังนั้น การพักโทษก็ต้องไม่เกินเวลา 4 เดือน แต่ในกรณีนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพวกฯ ได้พิจารณาให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพัก โทษเป็นเวลาถึง 6 เดือน เกินกว่าที่กฎกระทรวงกําหนดไว้

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ไม่เข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่จะได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรมและพวก ในตําแหน่งที่ข้าพเจ้าระบุมาข้างต้น จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้นักโทษ เด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับประโยชน์ อันมีสมควรจากการได้รับพิจารณาพักการลงโทษที่ไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ที่กําหนดไว้

ข้าพเจ้าจึงขอร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ดําเนินการ สอบสวนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพวกในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้นักโทษ เด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับประโยชน์จากการได้รับพิจารณาพักการลงโทษที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กําหนดไว้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดําเนินต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง

ด้วยความเคารพอย่างสูง
(นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์)





































กำลังโหลดความคิดเห็น