xs
xsm
sm
md
lg

แพทองธารต้องลาออก !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

อาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่ถือว่าคนไทยมีความเห็นตรงกันแทบจะเป็นหนึ่งเดียวนั่นคือ “รับไม่ได้” หลังจากได้รับฟังคลิปเสียง ที่เป็นการสนทนากันระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ที่สะท้อน “พฤติกรรมขายชาติ” อย่างชัดเจน

ดังนั้นนับจากนี้เป็นต้นไป ถือว่าเธอ “หมดความชอบธรรม” ไม่อาจเป็นผู้นำประเทศไทยอีกต่อไป และทำให้เสียงเรียกร้อง ไล่ให้ “ลาออกไป” ดังระงมทั่วเมือง และเชื่อว่าหากยังแข็งขืน จะต้องเจอกับแรงต่อต้านเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ลาออกไปทันที แต่ล่าสุด ก็มีความพยายาม “ดิ้นรน” อย่างเต็มที่กลับมา โดยเมื่อเช้าวันที่ 19 มิถุนายน น.ส.แพทองธาร ได้เรียกประชุมรัฐมนตรี และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ พล.อ.อ.วชิระพล เมืองน้อย เสนาธิการทหารอากาศ และพล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม

น.ส.แพทองธาร แถลงภายหลังการประชุมที่ใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง โดยเธอกล่าว “ขออภัย” ต่อประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เกิดกรณีคลิปเสียงหลุดออกมา ทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นมา และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับ แม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพ โดยอ้างว่าที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะเป็น “เทคนิคในการเจรจา”

จากนั้น นายกฯแถลงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ว่า วันนี้ได้มีการเชิญหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น ก่อนอื่นต้องขออภัยต่อประชาชนคนไทยทุกคนที่มีเรื่องของกรณีคลิปเสียงหลุดออกมา ระหว่างที่ดิฉันพูดคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ตัวดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพ อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงเทคนิคของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจเขาก่อน เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่อๆ ไป เป็นการต่อรองให้การปะทะหยุดลง นี่คือความตั้งใจที่แท้จริง ที่ต้องการให้สถานการณ์สงบสุข และไม่ทราบจริงๆว่าจะมีการอัดคลิป และเผยแพร่เช่นนี้

“วันนี้เราต้องร่วมมือกัน เพื่อผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนๆ ก็ต้องผนึกกำลังกันไว้เช่นกัน เพราะวันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆต่อประชาชนหรือของอะไรที่จะมาพูดว่ารัฐบาลกับกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกัน เราต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้ และนี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน และยินดีที่จะซัพพอร์ตกองทัพทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กองทัพต้องการการสนับสนุนใดๆ ก็ตาม คือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำร่วมกัน”

น.ส.แพทองธาร ระบุว่า วันนี้เองการที่เราจะออกมาทำอะไรหรือตัดสินใจในมิติต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย และแน่นอนว่าประชาชนตรงชายแดนด้วย คือสิ่งที่เราต้องนึกถึง และให้ความมั่นใจ ให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนตรงนี้ด้วย

ทั้งนี้ วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำการดำเนินการโดยสันติวิธีผ่านกระบวนการทวิภาคี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มายื่นหนังสือประท้วงและแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกระทำของผู้นำกัมพูชา และความจริงทั่วโลกไม่มีใครทำแบบนี้ ที่ผู้นำประเทศใหญ่ๆ ที่มีการพูดคุยตกลงกันหรือมีการเจรจาใดๆ ถ้าไม่ได้บอกก่อนว่าจะมีการอัดคลิป เช่น กรณีที่โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับผู้นำต่างๆ เมื่อติดต่อไปจะติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งจะแจ้งให้ทราบว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น แต่กรณีเป็นการโทรศัพท์โดยมือถือส่วนตัวของดิฉัน และการกระทำแบบนี้ไม่ควรเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกอยู่แล้ว รัฐบาลไทยและกองทัพขอแสดงรับผิดชอบในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยที่เรากำลังดูแลร่วมกัน ขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลและกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน และอยากให้ประชาชนเป็นอย่างเดียวกับเราด้วย เพื่อที่จะสามัคคีปกป้องอธิปไตย

“เวลานี้ ที่เคยบอกไปไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องมาสู้กันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันต้องขออภัยในความที่ไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น วันนี้ดิฉันรับทราบดีต่อจากนี้จะระวังในเรื่องของการพูดคุยให้มากขึ้น และแน่นอนว่าทางกองทัพที่เราพูดคุย เรามั่นใจอย่างหนึ่งว่าถ้าเรารวมกันเป็นหนึ่ง สามัคคีกัน เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน อย่างแข็งแรงได้” นายกฯ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเล็กน้อยในช่วงท้าย

แม้ว่าในคำแถลงดังกล่าวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะกล่าวคำขออภัยก็ตาม แต่หากพิจารณาเนื้อหารายละเอียด กลับเป็นการโบ้ยไปที่ การ“ปล่อยคลิป” ของนายฮุนเซน ว่าทำผิดธรรมเนียม และได้เรียกทูตกัมพูชามาประท้วง พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยต้องการสันติ และไม่ต้องการให้คนไทยทั้งในกัมพูชา และตามแนวชายแดนต้องเดือดร้อนหากเกิดการปะทะ

อย่างไรก็ดี นาทีนี้สิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้ก็คือเรื่อง “ขายชาติ” ที่นายกฯไทย ไปอ่อนข้อให้กับ “ฝ่ายตรงข้าม” ในที่นี้คือ ผู้นำกัมพูชา ที่นำโดย “ฮุนเซน” ที่ย้ำว่า “หากต้องการอะไร พร้อมจัดให้” หรือตลอดการสนทนาที่นานกว่า 17 นาที ล้วนไม่ใช่เป็นการเจรจา แต่เป็นการพูดในแบบที่ว่า หากฝ่ายกัมพูชาต้องการอะไร ก็พร้อมที่จะยกให้

และที่สำคัญลักษณะการสนทนาดังกล่าว “ไม่ใช่การเจรจาต่อรอง” รวมไปถึงไม่มีชั้นเชิง ไม่ต่างจากการ “ยกไทยให้เป็นเมืองขึ้น” ของกัมพูชา หรือ“ยอมอ่อนน้อม” ให้กับฮุนเซน ไม่รู้จักรักษาศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะมีการแถลง “ขออภัย” ออกมาจากปากของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็ตาม เชื่อว่าทุกอย่าง “สายไปแล้ว” เพราะความไว้วางใจในการเป็นผู้นำประเทศของเธอ รวมไปถึง “พ่อ” ของเธอ นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ได้หมดสิ้นไปแล้ว และอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เรียกเรียกร้องให้ “ลาออก” ดังสนั่นรอบทิศ แน่นอนว่ายิ่งขัดขืน เสียง “ขับไล่” ก็จะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นแม้ว่าจะมีการยืดเวลาด้วยการปรับคณะรัฐมนตรี ก็จะไร้ความหมาย หากดันทุรัง ก็จะพังกันหมดทุกพรรคที่ยังฝืนเป็น “นั่งร้าน” ให้กับคนที่ถูกมองว่า “ขายชาติ” แบบนี้ต่อไป !!


กำลังโหลดความคิดเห็น