"เอกนัฏ" ประณามกัมพูชา เกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญของประเทศ ไม่เกี่ยวว่าจะได้ร่วมรัฐบาลต่อหรือได้เก้าอี้หรือไม่ วันนี้คุยเรื่องสำคัญ ไม่มีแบ่งฝ่ายกับก๊วน "สุชาติ" ตัดสินใจได้เอง ไม่อิงพรรคร่วม ขณะ “พีระพันธุ์” ปิดปากเงียบ
วันนี้ (19มิ.ย.) เวลา 16.33 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติให้สัมภาษณ์ ก่อนประชุมกรรมการบริการพรรค ว่า การประชุมวันนี้ มีเพียงกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นที่เข้าร่วมในวันนี้ ส่วน สส.บางคนที่เข้าร่วมกรรมาธิการก็ได้เชิญมาร่วมประชุมด้วย แต่ไม่ได้เชิญมาทุกคน โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เชิญ สส.กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่ม 18
ส่วนแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ต้องมีการพูดคุยกันภายในห้องประชุม ซึ่งจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติจะเหมือนกับพรรคร่วมอื่นหรือไม่นั้น จะต้องมีการพูดคุยกันก่อน หลายคนการแสดงความห่วงใยมา โดยที่ตนเองไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ก็ขอฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อน สิ่งที่พรรคได้รับความคิดเห็นมาจำนวนมาก ก็ต้องมีการพูดคุยในวันนี้เช่นกัน
นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า การประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ ไม่มีการแบ่งซีกแบ่งฝ่าย วันนี้ไม่ใช่เรื่องของตนกับนายสุชาติแล้ว แต่เรื่องที่เราพูดคุยอยู่นั้นเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก สส.คนไหนไม่ยอมรับมติของพรรค เพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า คนที่เป็นสมาชิกพรรค ต้องยอมรับมติของพรรค หากใครที่มีอุดมการณ์ไม่ตรงกับพรรค ก็สามารถลาออกได้
เมื่อถามว่า การตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องดูปัจจัยอื่นของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ต้องดูใคร การตัดสินใจในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนได้รับเลือกจากสมาชิกพรรค และทำหน้าที่แทนสมาชิก ไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมเลย ส่วนการประชุมในวันนี้จะใช้เวลานานหรือไม่ ต้องรอดูก่อน
ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าว ถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ได้คุย
ขณะที่ท่าทีการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ต้องไปพูดคุยกันในห้องประชุมอีกที เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งโดยรวมต้องประนามการกระทำของกัมพูชา แต่เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญที่สุด ของประเทศไทย ซึ่งพรรคยึดหลักนี้เป็นเรื่องสำคัญ และไม่มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีของตนเองก็ไม่สำคัญ ถึงแม้จะร่วมรัฐบาลต่อและได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม ตนก็ไม่เอา เราไม่ได้สนใจ ไม่ใช่เรื่องตำแหน่งที่ไม่ลงตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เลย
“ผมจะอยู่หรือไปไม่สำคัญ แต่นี่คือจุดยืนของพรรคที่จะตัดสินใจ ไม่เกี่ยวว่าจะได้ตำแหน่งอะไร”
ส่วนจุดยืนดังกล่าวจะเป็นที่ถูกใจของประชาชนหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ต้องคิดว่าการดำรงอยู่ของพรรคอยู่ได้ด้วยแรงสนับสนุน และแรงศรัทธาของประชาชนที่ให้กับพรรค
จากนั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ได้เดินเข้ามาในพรรคและไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงจุดยืนของพรรคต่อกรณีคลิปเสียงดังกล่าว แต่นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างไร