"ปลัดป๊อป-ป๊อบ" ตรวจการบ้าน "การบริหารงานแบบผู้ว่าซีอีโอ ประจำปี 68" สรุปข้อสั่งการ 76 จังหวัด แต่งตั้ง "อนุกรรมการกลุ่มภารกิจ" เป็นการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ แก้ปัญหา 76 จังหวัด - 878 อำเภอ 4 ด้าน ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและสิ่งแวดล้อม และบริหารจัดการ ให้เน้นความสําคัญ ทั้งกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ การบริหารยุทธศาสตร์ โดยกําหนดให้ทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนา หรือแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัด ทุกไตรมาสที่ 4 ของปี
วันนี้ (18 มิ.ย.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือถึง ข้าราชการระดับสูง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
เพื่อแจ้งสรุปผลการขับเคลื่อนเพื่อดําเนินการทบทวน ปรับปรุง หรือแก้ไขในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารงาน เชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (การบริหารงานแบบผู้ว่าซีอีโอ)
ภายหลัง กระทรวงมหาดไทย ได้นิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นให้ นําแนวคิด แนวทาง และข้อเสนอการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการบริหารงาน เชิงพื้นที่แบบบูรณาการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ แนวทาง และเป้าหมายที่กําหนด เช่น
ในกรณีที่ คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ยังไม่ได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของ คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.)
ให้พิจารณาแต่งตั้ง ผู้แทนผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาสังคม เข้าเป็น "อนุกรรมการกลุ่มภารกิจ (Cluster)" แต่ละด้านที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน เพื่อจะได้มีผู้แทน ดังกล่าวเข้ามามีส่วนร่วมในการดําเนินงาน
หรือให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ของสภาพแวดล้อมเป็นประจําทุกปี หรือการนําแนวทางการบริหารเวลาไปใช้ในการบริหารจัดการของผู้บริหาร จังหวัดและคณะอนุกรรมการกลุ่มภารกิจ (Cluster) เป็นต้น
เสนอ ทบทวนหรือจัดทําประกาศแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลุ่มภารกิจ (Cluster) จํานวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านความมั่นคงและสิ่งแวดล้อม และด้านบริหารจัดการ ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และสมบูรณ์ตามแนวทางที่กําหนด
เช่น ให้จังหวัด เสริมสร้างประสิทธิภาพของ ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยแต่งตั้งผู้อํานวยการกลุ่มงาน ของสํานักงานจังหวัด ทําหน้าที่ผู้ช่วยเลขานุการของ คณะอนุกรรมการกลุ่มภารกิจ เว้นแต่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่ง ผู้อํานวยการกลุ่มงานข้างต้น
หรือเพื่อประสิทธิภาพของงานผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธาน ก.บ.จ.อาจแต่งตั้งจากผู้อํานวยการกลุ่มงานของที่ทําการปกครองจังหวัด อาทิ กลุ่มงานปกครอง หรือกลุ่มงานความมั่นคง ตามความเหมาะสม
เพื่อเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนการบริหารงานเชิงพื้นที่ของ ผู้บริหารจังหวัด และให้พิจารณานํากรณีตัวอย่างยุทธศาสตร์และปัจจัยแห่งความสําเร็จของการขับเคลื่อน แผนงาน โครงการ
หรือกิจกรรมการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ไปประยุกต์ใช้ในการบริหารงานหรือแก้ไข ปัญหาเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ
และให้แจ้งอําเภอเพื่อดําเนินการทบทวนหรือจัดทําประกาศแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลุ่มภารกิจ (Cluster)ระดับอําเภอ เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันต่อไป
ให้ความสําคัญกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) หรือการบริหารยุทธศาสตร์ โดยกําหนดให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัด ทุกไตรมาสที่ 4 ของปี
ซึ่งนอกจากพิจารณาปัญหา โอกาส และความต้องการที่จําเป็นของพื้นที่จังหวัดแล้ว คณะกรรมการ ก.บ.จ. จะต้องนํานโยบายหรือทิศทางการพัฒนาของรัฐบาลและทุกกระทรวง
รวมทั้ง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนหรือนโยบายระดับต่าง ๆ มาเป็นกรอบแนวทางการกําหนด ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาด้านต่าง ๆ ด้วย
ขณะเดียวกัน สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ควรทบทวน และหารือกับ สภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.น.บ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามหน้าที่และอํานาจของ ก.บ.จ.ตามมาตรา 14 (2) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565
ที่กําหนดให้จัดทําแผนพัฒนาจังหวัดเสนอต่อที่ประชุม ตามมาตรา 24 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหัวหน้าหน่วยงานหรือภาคีการพัฒนา
เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย ได้กําหนดช่องทางและโอกาสการมีส่วนร่วมของ หัวหน้าหน่วยงานหรือผู้แทนดังกล่าว โดยแต่งตั้ง เป็นกรรมการใน ก.บ.จ. และคณะอนุกรรมการในกลุ่มภารกิจที่เกี่ยวข้องแล้ว
ดังนั้น ภาคีการพัฒนาข้างต้น จึงได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดทําแผนพัฒนาจังหวัด ตั้งแต่การร่วมรับรู้ ร่วมคิด ร่วมให้ความเห็นร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติ และร่วมได้รับผลกระทบจากการขับเคลื่อนแผนนั้นแล้ว