นายกฯ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ย้ำ ก.ดีอีฯ -ส่วนราชการ ดูแลและนำเสนอข้อมูลความจริงใหัประชาชนตรวจสอบข้อมูล หลังมีการปั่นข่าวปลอมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มอบโจทย์ ก.พลังงาน 3 ข้อ ราคาไฟฟ้าเป็นธรรม ไม่สร้างภาระประชาชน
วันที่ 18 มิ.ย.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/ 2568 ที่กระทรวงพลังงาน
โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ปัจจุบันคงทราบดีอยู่แล้วว่าทั้งในประเทศและนอกประเทศเรื่องของข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และมีผลกับการกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ทุกวันนี้เฟกนิวส์เยอะมาก อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้น เกิดเฟกนิวส์นิวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น AI ที่ทำรูปเหมือนจริง ตนเองเห็นรูปก็สับสนว่าจริงหรือไม่จริง ซึ่งถ้าเป็นรูปตนเองก็รู้อยู่แล้วว่าไม่จริง แต่ถ้าเป็นรูปคนอื่นก็ต้อง เอ๊ะ ว่าจริงหรือไม่ จึงต้องการให้ทุกภาคส่วนพยายามนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงเสมอ เพื่อให้ประชาชนกลับมาตรวจสอบได้ว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง จึงขอมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม สังคมดูแลเรื่องเฟกนิวส์
นายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า ทุกครั้งที่มาประชุมก็จะพูดถึงการผลักดันงบลงทุนค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้เหลือเวลาอีก 4 เดือน ก็จะหมดงบประมาณ ปี 68 ขอความร่วมมือทุกกระทรวงเร่งเบิกจ่ายงบค้างท่อจากปี 67 ให้เสร็จสิ้น ซึ่งเหลือประมาณ 80,000 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
วันนี้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม รัฐบาลมีมาตรการระยะสั้นในการช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าไฟในรอบ เดือน พฤษภาคมถึงสิงหาคม และในระยะยาวจึงมอบโจทย์เพิ่มให้กระทรวงพลังงานปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ไฟฟ้า 3 เรื่อง คือ ให้ประชาชนมีไฟฟ้าที่มั่นคงเพียงพอ / มีราคาไฟฟ้าที่เป็นธรรมสะท้อนกับต้นทุนจริง //และ การผลิตไฟฟ้าที่ยั่งยืนมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าที่สะอาด
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า สุดท้ายนี้ท่ามกลางกระแสของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนมากมาย รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลพยายามจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยยึดหลักสันติวิธี พยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงและพยายามพูดคุยเจรจาให้ได้มากที่สุด อยากจะให้ประชาชนกลับไปทำงาน ประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองไ ด้ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีต่อไป ขอให้กระทรวงและผู้บริหารระดับสูงทุกคนเร่งดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ ให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน ย้ำว่าทุกทีมต้องทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้ประโยชน์สูงสุด
ซึ่งได้มีการเจอกับทางกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีการบูรณาการบิ๊กดาต้า กันทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ก็มีการบูรณาการร่วมกันซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ที่ดีมาก ๆ ซึ่งการรวมดาต้าเบต ของประชาชน ได้ ก็จะทำให้เรามีข้อมูลของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ลักษณะคล้ายกับแชต GPT หากเรามีข้อมูลรวมกันได้จะทำให้ดาต้าของเราใหญ่ขึ้น และช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุด ตรงกลุ่มและคุ้มค่ากับเม็ดเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ